วิธีชาร์จแบต UPS ให้ถูกต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งาน
Key Takeaway
|
วิธีเตรียมแบต UPS ก่อนใช้งานที่ถูกต้อง
เมื่อได้ UPS มาใหม่ การเตรียมการใช้งาน UPS และแบตเตอรี่ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ระบบพร้อมใช้งาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยสามารถทำตามขั้นตอน ดังนี้
ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งานครั้งแรก
ในการชาร์จแบตเตอรี่ UPS ครั้งแรก ควรชาร์จประมาณ 8 – 12 ชั่วโมง เพื่อเป็นการให้แบตเตอรี่เก็บประจุได้เต็มที่ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้เซลล์แบตเตอรี่ทุกเซลล์เสถียร และพร้อมสำหรับการจ่ายไฟในระยะยาว
ตรวจเช็กความถูกต้องของแรงดันไฟฟ้า
การใช้แรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้ผลิต ในการชาร์จ หรือใช้งาน UPS มีความสำคัญมาก เพราะแรงดันที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร
วิธีชาร์จแบต UPS อย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันความเสียหาย
วิธีการชาร์จแบตเตอรี่ UPS ที่ถูกต้องเพื่อยืดอายุการใช้งาน มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
ใช้แหล่งจ่ายไฟสูงในการชาร์จแบต
บ้านใครที่มีแรงดันไฟต่ำ หรือไฟดับบ่อย วิธีชาร์จแบต UPS คือควรชาร์จในช่วงที่มีไฟแรง เช่น ตอนกลางคืน เพื่อให้แบตเตอรี่มีเวลาชาร์จเพียงพอหลังการใช้งาน โดยทั่วไปจะใช้เวลา 10 – 12 ชั่วโมงในการชาร์จแบตเตอรี่ใหม่ให้ถึง 90% ของความจุ
หลีกเลี่ยงการชาร์จเกิน
การชาร์จแบตเตอรี่มากเกินไป อาจทำให้อิเล็กโทรไลต์ระเหย และแบตเตอรี่ร้อนเกินไป แม้ว่าระบบ UPS ส่วนใหญ่จะออกแบบมาเพื่อป้องกันการชาร์จเกิน แต่ก็ยังควรหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อแบตเตอรี่กับที่ชาร์จเป็นเวลานานเกินความจำเป็นอยู่ดี
ชาร์จแบตตามตารางเวลา
คำถามที่ว่าชาร์จแบต UPS ต้องเปิดเครื่องไหม? คำตอบคือต้องเปิด โดย UPS รุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีระบบควบคุมการชาร์จในตัว แต่ยังสามารถปรับตั้งค่าได้ จึงควรกำหนดตารางการชาร์จที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น การชาร์จในตอนกลางคืน หรือตอนที่ความต้องการไฟฟ้าต่ำ ซึ่งจะช่วยให้การชาร์จมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ชาร์จแบตให้เต็มรอบ
วิธีชาร์จแบตเตอรี่ UPS ใหม่ หรือแบตเตอรี่ที่ถูกปล่อยให้คายประจุลึก ควรทำการชาร์จเต็ม และคายประจุให้หมดในรอบการชาร์จ ซึ่งจะช่วยให้แบตเตอรี่ปรับสภาพได้ โดยควรทำซ้ำกระบวนการนี้หลายครั้ง เพื่อให้แบตเตอรี่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
เทคนิคในการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ UPS
นอกจากการชาร์จแบต UPS อย่างถูกวิธีแล้ว การดูแลรักษาแบต UPS ก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งมีวิธีต่างๆ ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ดังนี้
รีบชาร์จแบต UPS เมื่อแบตหมดทันที
หากแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้าหมด ควรรีบชาร์จภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือเสียหายแบบถาวร ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป
ทดสอบแบตเตอรี่เป็นประจำ
สำหรับคนที่สงสัยว่า UPS หรือเครื่องสํารองไฟคอมพิวเตอร์ต้องปิดไหม? แนะนำว่าควรปิด เพื่อทดสอบสภาพแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้าเดือนละครั้ง จะได้รู้ว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพหรือไม่ เพราะโดยปกติแล้วแบตเตอรี่มีอายุใช้งาน 2 – 3 ปี
วิธีทดสอบคือถอดปลั๊กเครื่องสำรองไฟฟ้าออกจากแหล่งจ่ายไฟ แล้วสังเกตระยะเวลาการสำรองไฟว่าปกติหรือไม่ การทำเช่นนี้จะช่วยกระตุ้นเซลล์แบตเตอรี่ให้ใช้งานเป็นประจำ และช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย
ทำความสะอาดอยู่เสมอ
ขั้วแบตเตอรี่ และการเชื่อมต่อ ควรได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพราะขั้วที่มีการกัดกร่อนอาจขัดขวางกระบวนการชาร์จ และลดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ โดยควรใช้ผงฟูผสมกับน้ำในการทำความสะอาด และทำให้แห้งก่อนที่จะเชื่อมต่อใหม่
ดูแลและควบคุมอุณหภูมิ
อุณหภูมิสูงเกินไป อาจทำให้แบตเตอรี่ทำงานไม่เต็มที่ หากระบบ UPS อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอยู่ตลอดเวลา ควรพิจารณาการลงทุนซื้อกล่องแบตเตอรี่ที่มีการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ เพื่อช่วยป้องกันปัญหานี้
ควรเปลี่ยนแบต UPS เมื่อครบอายุการใช้งาน
แม้จะมีการดูแลอย่างถูกต้อง หรือชาร์จแบตถูกวิธี แต่แบตเตอรี่ UPS ก็มีอายุการใช้งานที่จำกัด โดยทั่วไปแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดจะต้องเปลี่ยนทุกๆ 3 – 5 ปี ควรสังเกตอาการเมื่อความจุของแบตเตอรี่เริ่มลดลง เพื่อเตรียมพร้อมในการเปลี่ยนให้ทันเวลา
สรุป
เมื่อมี UPS เครื่องใหม่ ควรเตรียมแบตเตอรี่ให้พร้อม โดยชาร์จอย่างถูกวิธีเพื่อกระตุ้นแบต ซึ่งควรชาร์จให้เต็มก่อนใช้งานครั้งแรก และเช็กความถูกต้องของแรงดันไฟฟ้า รวมถึงมีเทคนิคการดูแล เช่น ตรวจสอบการชาร์จอย่างสม่ำเสมอ รักษาความสะอาดของขั้วแบตเตอรี่ และทดสอบแบตเดือนละครั้ง
การเลือกใช้ UPS ที่มีคุณภาพจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนาน โดยไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรืออุปกรณ์สำรองไฟบ่อยครั้ง แต่ถ้าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตแล้ว เลือกซื้อแบตเตอรี่ UPS ของ Chuphotic ผู้นำด้านเครื่องสำรองไฟฟ้าที่มี UPS คุณภาพสูง ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนาน และมีประสิทธิภาพ พร้อมบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ เพื่อความมั่นใจในการใช้งานอย่างปลอดภัย