fbpx

UPS มีกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไร? แล้วแบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา?

  • Home
  • เกร็ดความรู้
  • UPS มีกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไร? แล้วแบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา?
UPS มีกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไร? แล้วแบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา?

UPS มีกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไร? แล้วแบบไหนถึงจะเหมาะกับเรา?

  • UPS หรือเครื่องสำรองไฟ ช่วยสำรองและจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เมื่อเกิดไฟฟ้าดับหรือมีความผันผวน เพื่อให้อุปกรณ์สามารถทำงานอย่างต่อเนื่องและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างกะทันหัน
  • UPS ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าระหว่าง AC และ DC อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปกติจะปรับกระแสไฟฟ้าให้สม่ำเสมอเหมาะสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งสำรองพลังงานในแบตเตอรี่ เพื่อสามารถจ่ายไฟอย่างต่อเนื่องทันทีเมื่อระบบไฟฟ้าหลักขัดข้อง
  • UPS มีกี่แบบ UPS มีอยู่ 3 แบบหลักๆ ได้แก่ UPS ชนิด Standard หรือ Offline UPS UPS Line Interactive และ UPS True Online (Double Conversion)
  • การลงทุนซื้อ UPS เป็นการปกป้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งจากรณีที่ไฟดับกะทันหัน กรณีไฟตก ไฟเกิน หรือไฟกระชาก รวมถึงกรณีเกิดสัญญาณรบกวนการทำงาน
ปัญหากระแสไฟฟ้าหรือสัญญาณรบกวนขณะใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเรื่องที่สร้างความหงุดหงิดใจให้กับผู้ใช้งานอย่างมาก เพราะนอกจากจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบร้ายแรงถึงขั้นทำให้ข้อมูลสำคัญเสียหายหรือการทำงานหยุดชะงัก โชคดีที่มีวิธีแก้ปัญหาที่ค่อนข้างง่าย นั่นคือการใช้เครื่องสำรองไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า UPS ซึ่งสามารถช่วยป้องกันความเสียหายและรักษาความต่อเนื่องของการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การลงทุนซื้ออุปกรณ์นี้จึงถือเป็นทางออกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำคัญ เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจในการทำงาน แล้ว UPS มีกี่แบบและแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ!
ทำความรู้จัก UPS คืออะไร

ทำความรู้จัก UPS คืออะไร

UPS (Uninterruptible Power Supply) หรือเครื่องสำรองไฟ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความสำคัญมากในปัจจุบันนี้ ทำหน้าที่หลักในการสำรองและจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ในกรณีที่ไฟฟ้าดับหรือมีความผันผวน โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ภายในเครื่องช่วยให้อุปกรณ์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดกระแสไฟฟ้าอย่างกะทันหัน ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มูลค่าสูง

หลักการทำงานของ UPS

UPS เป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าระหว่าง AC และ DC อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในสภาวะปกติ เครื่องจะทำหน้าที่ปรับกระแสไฟฟ้าให้มีความสม่ำเสมอเหมาะกับการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกับเก็บพลังงานสำรองไว้ในแบตเตอรี่ เมื่อเกิดเหตุขัดข้องกับระบบไฟฟ้าหลัก UPS จะแปลงไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่กลับเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ เพื่อจ่ายไปยังอุปกรณ์ให้สามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่สะดุด ด้วยเทคโนโลยีการแปลงกระแสไฟฟ้านี้ UPS จึงเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการรักษาความต่อเนื่องของระบบอิเล็กทรอนิกส์

ส่วนประกอบของ UPS

ส่วนประกอบของ UPS

ถึงแม้ว่าส่วนประกอบของ UPS เป็นปัจจัยที่ใช้ในการแบ่งว่า UPS มีกี่แบบ แต่อย่างไรก็ตามส่วนประกอบพื้นฐานของ UPS ก็มีทั้งสิ้น 3 ส่วน ได้แก่ เครื่องชาร์จประจุแบตเตอรี่ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า และแบตเตอรี่ โดยแต่ละส่วนมีการทำงานดังต่อไปนี้

    • เครื่องชาร์จประจุแบตเตอรี่หรือ Charger
      เป็นส่วนที่ทำหน้ารับไฟฟ้ากระแสสลับจากแหล่งพลังงานหลัก นำมาแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสตรง เพื่อนำไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ หรือเรียกอีกอย่างว่าเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า AC เป็น DC หรือ Rectifier
    • เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าหรือ Inverter
      ทำหน้าที่รับไฟฟ้ากระแสตรงที่แบตเตอรี่เก็บสะสมไว้และแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ เพื่อส่งไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เวลาที่กระแสไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหลักส่งมาไม่สม่ำเสมอ
    • แบตเตอรี่หรือ Battery
      ทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าสำรองที่ได้จากการแปลงไฟฟ้ากระแสสลับเป็นไฟฟ้ากระแสตรง เมื่อเกิดความผิดปกติของกระแสไฟฟ้า แบตเตอรี่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังเครื่องแปลงไฟฟ้า เพื่อแปลงไฟฟ้ากระแสตรงให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับเพื่อส่งไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อกับ UPS
ups มีกี่แบบ

UPS มีกี่แบบ? อะไรบ้าง?

หลายๆ คนอาจมีคำถามว่า เครื่องสำรองไฟฟ้ามีกี่แบบ UPS มีกี่แบบ หรือUPS มีกี่ประเภท ถือเป็นคำถามที่คนอยากมีอุปกรณ์ UPS ไว้ใช้งานควรคำนึงเป็นอย่างแรก เนื่องจาก UPS ที่นิยมใช้เป็นแหล่งสำรองไฟปัจจุบันมีด้วยกันทั้งสิ้น 3 แบบ โดยแต่ละแบบล้วนมีข้อดีข้อเสียและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. UPS ชนิด Standard

UPS ชนิด Standard หรือ Offline UPS เป็นระบบสำรองไฟฟ้าพื้นฐานที่ทำงานด้วยกระบวนการที่ไม่ซับซ้อน หัวใจสำคัญของระบบนี้คือ Transfer Switch หรือตัวสับเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟ ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างแหล่งพลังงานหลักและเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า

เมื่อเกิดความผิดปกติทางไฟฟ้า ตัวสับเปลี่ยนจะทำการโอนสัญญาณไปใช้ไฟฟ้ากระแสสลับจากเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าโดยทันที เพื่อส่งพลังงานไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน หากกระแสไฟฟ้าหลักทำงานปกติ ระบบจะยังคงใช้ไฟจากแหล่งหลักและทำการกักเก็บพลังงานสำรองไว้ในแบตเตอรี่ เพื่อความพร้อมใช้งานตลอดเวลา

    • ข้อดี ราคาถูกกว่า UPS แบบอื่น ติดตั้งง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยากซับซ้อน มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ทำให้ขนย้ายสะดวก
    • ข้อเสีย ใช้ได้เฉพาะกรณีไฟดับเท่านั้น ไม่สามารถใช้แก้ปัญหาความผันผวนของกระแสไฟฟ้าแบบอื่นได้ อายุการใช้งานสั้น อีกทั้งยังไม่เหมาะกับการนำไปใช้งานในพื้นที่ใกล้กับแหล่งผลิตไฟฟ้า เนื่องด้วยมีความผันผวนของกระแสไฟฟ้าสูง อาจทำให้อุปกรณ์เสียหายได้

2. UPS ชนิด Line interactive

UPS Line Interactive เป็นนวัตกรรมเครื่องสำรองไฟที่พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของ Offline UPS ด้วยการติดตั้งระบบปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ ทำหน้าที่รักษาระดับแรงดันไฟฟ้าและลดปัญหาไฟกระชาก ในสภาวะปกติระบบจะคอยควบคุมแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ และเมื่อเกิดไฟดับอุปกรณ์จะสามารถสับเปลี่ยนไปใช้พลังงานจากระบบปรับแรงดันหรือเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องพึ่งแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว

ข้อดีเหล่านี้ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่อง ประกอบกับราคาที่เหมาะสม จึงทำให้ UPS Line Interactive เป็นที่นิยมในปัจจุบัน

    • ข้อดี ราคาปานกลาง ใช้งานได้ทุกพื้นที่ ขนาดเล็กกะทัดรัด ขนย้ายสะดวก อายุการใช้งานยาวนานกว่าแบบ Offline UPS
    • ข้อเสีย ไม่เหมาะกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความไวต่อคุณภาพกระแสไฟฟ้า ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องความถี่ไฟฟ้าเมื่อเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับแรงดันไฟฟ้าได้

3. UPS ชนิด True Online

UPS ชนิด True Online (Double Conversion) ถือเป็นนวัตกรรมล้ำสมัยในวงการอุปกรณ์สำรองไฟ ด้วยประสิทธิภาพอันโดดเด่นที่เหนือกว่า UPS แบบอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ระบบนี้มีความพิเศษตรงที่เครื่องประจุและแปลงกระแสไฟฟ้าทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่ากระแสไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหลักจะเป็นแบบไหนก็สามารถปรับเปลี่ยนและควบคุมกระแสไฟให้คงที่และสมดุลอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ได้รับกระแสไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพสูงสุด ปลอดภัยจากความผันผวนของระบบไฟฟ้า

    • ข้อดี สามารถป้องกันความผิดปกติของกระแสไฟฟ้าได้ทุกกรณี มีหลายขนาดให้เลือก และที่สำคัญเวลาตรวจเช็กการทำงานไม่จำเป็นต้องปิดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ จึงเหมาะสำหรับใช้กับอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือการใช้งานคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน
    • ข้อเสีย ราคาสูง ระบบซับซ้อน ติดตั้งค่อนข้างยาก ขนาดใหญ่น้ำหนักมาก ทำให้ยากต่อการขนย้าย
UPS สำคัญอย่างไร? ทำไมต้องมีไว้

UPS สำคัญอย่างไร? ทำไมต้องมีไว้

การตัดสินใจซื้อ UPS สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ มักทำให้หลายคนลังเลใจ เนื่องจากปัญหากระแสไฟดับหรือไฟตกดูเหมือนจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และปัจจุบันโปรแกรมส่วนใหญ่มีระบบกู้คืนไฟล์อัตโนมัติ ทำให้บางคนมองว่าการสำรองไฟไม่ใช่เรื่องจำเป็น

อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงแสดงให้เห็นว่าปัญหากระแสไฟฟ้าที่ไม่เสถียรนั้นไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความเสียหายของข้อมูล แต่ยังอาจก่อความเสียหายต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างถาวรได้ การลงทุนใน UPS จึงเป็นการปกป้องอุปกรณ์มีค่าของคุณจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด

กรณีไฟดับ

การสูญเสียพลังงานไฟฟ้ากะทันหันและการปิดระบบคอมพิวเตอร์อย่างไม่ถูกต้องเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์และข้อมูล เมื่อไฟดับบ่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อฮาร์ดไดรฟ์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอย่าง SSD ทำให้อายุการใช้งานสั้นลง ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาไฟกระชากที่ตามมาหลังไฟดับอาจก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงกับเพาว์เออร์ซัพพลายหรือเมนบอร์ด จนกระทั่งคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเปิดใช้งานได้อีกต่อไป ดังนั้น การป้องกันและสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

กรณีไฟตก ไฟเกิน และไฟกระชาก

ปัญหาไฟฟ้าที่ไม่เสถียรนับเป็นภัยเงียบที่คุกคามอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นไฟตก ไฟเกิน หรือไฟกระชาก ล้วนส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของอุปกรณ์ โดยเฉพาะเมื่อแรงดันไฟฟ้าเบี่ยงเบนจากค่ามาตรฐาน 220V ไม่ว่าจะต่ำหรือสูงกว่า การเกิดปรากฏการณ์ไฟติดๆ ดับๆ อย่างต่อเนื่องจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเมนบอร์ด ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจหลักของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น การป้องกันและควบคุมคุณภาพไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ

กรณีเกิดสัญญาณรบกวน

สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าเป็นปรากฏการณ์ที่ซับซ้อนและเกิดขึ้นได้จากหลากหลายแหล่งที่มา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า คลื่นวิทยุ การเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็ก ไฟกระชาก หรือแม้กระทั่งปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างฟ้าผ่า ผลกระทบที่ตามมาค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากสัญญาณเหล่านี้สามารถรบกวนกระแสไฟฟ้าและส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรม และไฟล์งานที่บันทึกไว้ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายหรือการทำงานที่ผิดพลาดได้อย่างไม่คาดคิด

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ UPS

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ UPS

สำหรับคนที่กำลังวางแผนซื้อ UPS สักเครื่องมาใช้งาน นอกจากต้องรู้ว่า UPS มีกี่แบบหรือกี่ประเภทแล้ว ยังควรให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อ เทคนิคการใช้เครื่องสำรองไฟ การดูแลรักษา และข้อควรระวังในการใช้งานด้วย ดังนี้

การเลือกซื้อ UPS

วิธีการเลือกซื้ออุปกรณ์ UPS อันดับแรกควรเลือกซื้ออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานจากหน่วยงานต่างๆ อย่างสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (มอก.) หรือสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (ISO) จากนั้นให้พิจารณาจากคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

    • เลือกรุ่น UPS ที่มีกำลังไฟสูงกว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่นำมาต่อพ่วงประมาณ 20% สำหรับการตรวจสอบค่ากำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากฉลากของผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีหน่วยตัวเลขเป็น Watt หรือ VA
    • เลือก UPS ที่ใช้แบตเตอรี่ชนิด High-Rate เนื่องจากสามารถสำรองกระแสไฟฟ้าได้นานกว่าปกติประมาณ 20% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้พลังงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่นำมาต่อพ่วงด้วย
    • เลือก UPS ที่เหมาะกับพื้นที่ที่นำไปใช้งาน หากเป็นพื้นที่ที่มีความแปรปรวนของกระแสไฟฟ้าสูง ควรเลือกแบบ True Online ที่ถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงกว่า แต่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องกระแสไฟได้ทุกกรณี แต่ถ้าเป็นพื้นที่ที่มีความแปรปรวนของกระแสไฟฟ้าน้อยสามารถเลือกใช้แบบ Line Interactive หรือ Offline UPS ได้ตามความเหมาสม

วิธีการใช้งาน

โดยทั่วไปแล้วการติดตีั้ง UPS กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง ซึ่งขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

    • ขั้นแรกควรตรวจสอบสายไฟของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่นำมาต่อกับ UPS ทุกชิ้นว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์และที่สำคัญกำลังไฟรวมทั้งหมดต้องไม่เกินกำลังไฟฟ้าของ UPS ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรตามมาภายหลัง
    • หลังจากตรวจสอบแล้วให้เชื่อมต่อสายไฟของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้ากับช่อง OUTPUT ของ UPS โดยยังไม่ต้องเปิดเครื่อง UPS
    • นำปลั๊กของ UPS เสียบกับเต้ารับที่มีสายดิน จากนั้นจึงเปิดเครื่อง เมื่อเครื่องทำงานแล้วจึงค่อยเปิดสวิตซ์ของาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับการใช้งานครั้งแรกแนะนำว่าควรชาร์ตประจุไฟฟ้าไว้อย่างน้อย 5 ชั่วโมง เพื่อให้ UPS เก็บพลังงานอย่างเต็มที่ ส่วนการปิดเครื่องควรปิดจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อน แล้วค่อยปิดสวิตซ์ของ UPS โดยไม่ต้องถอดปลั๊ก เพราะหากไม่ได้ถอดสายพ่วงออก อิเล็กทรอนิกส์ แบตตอรี่ของ UPS จะยังคงจ่ายกระแสไฟฟ้าต่อเนื่อง อาจทำให้แบตเตอรี่ขาดกระแสไฟฟ้าและเกิดความเสียหายได้

วิธีการดูแลรักษา UPS

การดูแลรักษาอุปกรณ์ UPS ในเบื้องต้นควรวางอุปกรณ์ UPS ไว้ในจุดที่อากาศถ่ายเทและทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งหรือแปรงขนนุ่มอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ส่วนด้านในของ UPS แนะนำให้ทำความสะอาดทุก 6 เดือน เพื่อลดการสะสมของฝุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความร้อนสะสมในตัวเครื่อง เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ UPS ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานนานขึ้น

ข้อควรระวังในการใช้งาน

เครื่องสำรองไฟหรือ UPS เองถือเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง เพราะฉะนั้นจึงมีข้อควรระวังไม่ต่างจากอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป ซึ่งข้อควรระวังในการใช้งาน UPS ที่สำคัญ ได้แก่

    • ไม่ควรดัดแปลง UPS หรือใช้งานเกินกำลังอย่างเด็ดขาด
    • ไม่ควรวาง UPS ไว้ในจุดที่อุณหภูมิเกิน 25 องศาเซสเซียส ใกล้แสงแดด หรือจุดที่มีความร้อนสูง
    • ควรทำตามลำดับการเปิดเครื่องหรือปิดเครื่อง เพื่อลดปัญหาแรงดันไฟฟ้าที่อาจทำให้ UPS ทำงานผิดปกติได้
    • ควรหมั่นสังเกตสถานะบนหน้าจอของ UPS โดยถ้าขึ้นไฟสีฟ้าแสดงว่า UPS ทำงานปกติ แต่ถ้าขึ้นสีส้มแสดงว่าเครื่องกำลังทำงานผิดปกติ นอกจากนั้นยังมีการแสดงข้อความบนหน้าจอด้วย เช่น ตัวอักษร LINE แสดงว่าเครื่อง UPS ทำงานปกติไม่มีการดึงไฟสำรองมาใช้ ตัวอักษร bATT แสดงว่า UPS กำลังนำกระแสไฟจากแบตเตอรี่มาใช้ ตัวอักษร BYPA แสดงว่า UPS กำลังเกิดปัญหาภายใน แต่มีการจ่ายกำลังไฟไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ ตัวอักษร OVLd หน้าจอเป็นสีส้ม แสดงว่ามีการใช้พลังงานไฟฟ้ามากเกินกว่าที่ UPS กำหนด และถ้า หน้าจอแสดงเครื่องหมายตกใจในสามเหลี่ยม แสดงว่า UPS มีความผิดปกติ

เครื่องสำรองไฟ หรือ UPS เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องระบบอิเล็กทรอนิกส์จากความผันผวนทางไฟฟ้า โดยทำหน้าที่สำรองและจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อย่างต่อเนื่องในยามที่ระบบไฟฟ้าหลักเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นกรณีไฟดับหรือความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นกะทันหัน ด้วยเทคโนโลยีการแปลงกระแสไฟฟ้าระหว่าง AC และ DC อย่างมีประสิทธิภาพ UPS สามารถปรับกระแสไฟฟ้าให้สม่ำเสมอและเหมาะสมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

UPS มีกี่ประเภท? ปัจจุบัน UPS มีหลายประเภท ได้แก่ Standard UPS, Line Interactive UPS และ True Online UPS แต่ละแบบมีคุณสมบัติการทำงานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ UPS จึงเป็นการลงทุนที่ช่วยปกป้องอุปกรณ์มีค่าจากความเสี่ยงต่างๆ อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นกรณีไฟดับ ไฟตก ไฟเกิน หรือไฟกระชาก รวมถึงสัญญาณรบกวนที่อาจทำลายระบบอิเล็กทรอนิกส์

Chuphotic ผู้นำด้านเครื่องสำรองไฟ มาตรฐานอันดับ 1 ในตลาดอาเซียน จำหน่าย UPS คุณภาพดี ได้รับการรับรอง ISO และ มอก. พร้อมบริการหลังการขาย รับ-ส่ง และซ่อมเครื่องฟรีทั่วประเทศ!