วิธีเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิด ให้คุ้มค่า และเหมาะกับการใช้งาน
Key Takeaway
- UPS ช่วยให้ระบบกล้องทำงานต่อเนื่องแม้ไฟดับ ป้องกันการหยุดบันทึกภาพที่อาจพลาดเหตุการณ์สำคัญ รองรับแรงดันไฟ ป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์จากไฟตก ไฟกระชาก และยืดอายุการใช้งานของระบบกล้องทั้งหมด
- UPS สำหรับกล้องวงจรปิด มี 3 ได้แก่ Offline, Line-Interactive และ Online ต่างกันที่ความเสถียรของไฟและการป้องกันไฟฟ้ารบกวน Line-Interactive และ Online เหมาะกับระบบกล้องที่ต้องการความต่อเนื่องและความปลอดภัยสูงกว่าแบบพื้นฐาน
- ควรเลือก UPS ตามกำลังไฟรวมของกล้องและอุปกรณ์ที่ใช้งาน เวลาสำรองไฟที่ต้องการ ประเภท UPS ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม เช่น บ้าน สำนักงาน หรือโรงงาน และพิจารณาฟีเจอร์เสริม เช่น Surge Protection และระบบแจ้งเตือน เพื่อให้ใช้งานได้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ปกป้องบ้านหรือธุรกิจ แต่ไฟดับเพียงไม่กี่วินาที… ภาพก็สะดุด อาจพลาดเหตุการณ์สำคัญแบบไม่รู้ตัว นี่คือเหตุผลว่าทำไม “UPS” จึงเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ แต่จะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับจำนวนกล้องและการใช้งานจริง? บทความนี้พาไปรู้จักเทคนิคเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิดแบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องเป็นช่างก็เลือกได้ถูกต้อง ช่วยให้ระบบทำงานต่อเนื่อง ปลอดภัย และคุ้มค่า!
UPS คืออะไร จำเป็นจริงไหม?
UPS คือ อุปกรณ์สำรองไฟฟ้าแบบไม่สะดุด ทำหน้าที่จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องเมื่อเกิดเหตุไฟดับ ไฟตก ไฟกระชาก หรือแรงดันไฟไม่คงที่ เพื่อป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์สำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ ระบบกล้องวงจรปิด หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์
UPS จะเริ่มจ่ายไฟทันทีอัตโนมัติภายในเสี้ยววินาที ทำให้การทำงานของอุปกรณ์ไม่หยุดชะงักและลดความเสี่ยงสูญหายของข้อมูลหรือความเสียหายของฮาร์ดแวร์
ส่วนประกอบหลักของ UPS
- แบตเตอรี่ (Battery) แหล่งเก็บพลังงานสำรองสำหรับจ่ายไฟเมื่อไฟฟ้าปกติขัดข้อง
- อินเวอร์เตอร์ (Inverter) ตัวแปลงไฟจากกระแสตรง (DC) ของแบตเตอรี่ให้เป็นกระแสสลับ (AC) เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้า
- วงจรควบคุมระบบและที่ชาร์จ (Control & Charger) ช่วยควบคุมการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ ตรวจสอบสถานะไฟฟ้า สั่งให้ระบบสลับมาใช้แบตเตอรี่เมื่อไฟขัดข้อง รวมถึงป้องกันไฟตก – ไฟเกิน
UPS จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความเสถียร ปลอดภัย และทำงานต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุปกรณ์ที่ต้องการความมั่นคงของไฟสูง เช่น กล้องวงจรปิดและเซิร์ฟเวอร์ธุรกิจ
ประโยชน์ของการใช้ UPS สำหรับกล้องวงจรปิด
- ป้องกันการหยุดชะงักของกล้อง
UPS ช่วยให้ระบบกล้องวงจรปิดทำงานต่อเนื่องแม้เกิดไฟดับหรือไฟตก ทำให้กล้องไม่หยุดทำงานและลดการพลาดภาพเหตุการณ์สำคัญ - ป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์
เมื่อเกิดไฟกระชากหรือแรงดันไฟไม่เสถียร อาจทำให้กล้อง NVR / DVR หรือสวิตช์เครือข่ายเสียหายได้ UPS จะช่วยกรองและปรับแรงดันไฟให้คงที่ ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ - บันทึกข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
หากไฟดับแบบกะทันหัน อาจทำให้ไฟล์วิดีโอเสียหายหรือบันทึกไม่สมบูรณ์ UPS จะช่วยให้เครื่องบันทึกยังคงทำงานต่อ หรือมีเวลาพอให้ระบบปิดตัวลงอย่างปลอดภัยเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย - เพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัย
กล้องวงจรปิดสามารถทำงานได้แม้ไฟฟ้ามีปัญหา ทำให้มั่นใจได้ว่าพื้นที่ยังอยู่ภายใต้การเฝ้าระวัง ลดความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดคิด เช่น การบุกรุกหรือเหตุร้ายที่อาจเกิดช่วงไฟดับ
ประเภทของ UPS สำหรับกล้องวงจรปิด
- Offline / Standby ทำงานโดยจ่ายไฟจากระบบไฟบ้านโดยตรง และจะสลับมาใช้แบตเตอรี่เมื่อไฟดับหรือแรงดันผิดปกติ เหมาะสำหรับระบบกล้องขนาดเล็กหรือพื้นที่ที่ไฟค่อนข้างนิ่ง ราคาประหยัดและใช้พลังงานน้อย แต่มีเวลาเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟ (Transfer Time) เล็กน้อย อาจไม่เหมาะกับอุปกรณ์ที่ทำงานไว
- Line-Interactive มีระบบปรับแรงดันไฟอัตโนมัติ (Automatic Voltage Regulation: AVR) ช่วยรักษาแรงดันให้คงที่โดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รองรับไฟตกและไฟเกินได้ดีกว่าแบบ Offline ทำให้เหมาะกับกล้องวงจรปิดในบ้านและออฟฟิศทั่วไป มี Transfer Time น้อยลงและให้ความเสถียรสูงขึ้น
- Online / Double Conversion จ่ายไฟผ่านระบบแปลงไฟสองชั้น (AC ไป DC ไป AC) ทำให้ไฟที่ออกมาสะอาดและเสถียรที่สุด ไม่มี Transfer Time เพราะไฟถูกจ่ายจากอินเวอร์เตอร์ตลอดเวลา ป้องกันไฟกระชาก ไฟตก ไฟเกิน และสัญญาณรบกวนได้ดี เหมาะกับระบบกล้องวงจรปิดในพื้นที่อาคารสำนักงาน โรงงาน หรือพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
6 วิธีเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิด
การเลือก UPS ให้เหมาะกับระบบกล้องวงจรปิดควรคำนึงกำลังไฟที่ต้องการ เวลาสำรองไฟ สภาพแวดล้อมการใช้งาน และฟีเจอร์เสริมที่ช่วยรักษาความต่อเนื่องของการบันทึกและความปลอดภัยของระบบ ไปดู 6 ข้อที่ทำตามได้จริงถ้าจะเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิด
1. ประเมินกำลังไฟของกล้อง
ควรคำนวณ “ภาระไฟฟ้า (Load)” ของระบบ CCTV ทั้งชุด รวมกล้องหลายตัว PoE-switch, NVR / DVR เราเตอร์หรือโมเด็ม (ถ้าให้กล้องออนไลน์ได้) และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพราะหาก UPS ที่เลือกมีกำลังไฟไม่พอ อาจไม่สามารถสำรองไฟได้จริงเมื่อไฟดับ
วิธีคำนวณ
- ดูสเปกของกล้องและอุปกรณ์ว่าใช้กี่วัตต์ (Watt) หรือโวลต์ – แอมป์ (VA) ถ้าค่าเป็น VA ให้แปลงเป็น Watt (โดยทั่วไป Watt ≈ VA × 0.8–0.9)
- นำค่าทั้งหมดมารวม และเผื่อสำรอง ไว้ประมาณ 20 – 30% เผื่อมีการเพิ่มอุปกรณ์ในอนาคตหรือไฟขึ้นทันที
ถ้าระบบที่ใช้มีกล้องหลายตัว + NVR + PoE switch + เราเตอร์ แนะนำให้เลือก UPS ที่มีกำลังไฟเยอะกว่าจำนวน Watt รวมเล็กน้อย
2. กำหนดระยะเวลาสำรองไฟ
เมื่อรู้ภาระไฟแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องคิดคือ “ต้องการให้กล้องทำงานต่อเนื่องนานแค่ไหนเมื่อไฟดับ” แค่ให้บันทึกต่อจนไฟกลับมาหรือให้ทำงานหลายชั่วโมง
- UPS แบบทั่วไปอาจสำรองไฟได้แค่ 15 – 30 นาที ถ้าภาระไม่มาก
- ถ้าต้องการสำรองให้ยาว เช่น 1 – 2 ชั่วโมง หรือมากกว่า อาจต้องเลือก UPS ที่มีกำลังไฟสูง เสริมกับ แบตเตอรี่ใหญ่ หรือใช้ UPS หลายตัวแบ่งโหลด
ข้อแนะนำ สำหรับบ้านหรือร้านค้า ถ้าระบบไม่ใหญ่มาก สำรอง 20 – 30 นาทีอาจเพียงพอ สำหรับสำนักงานหรือโรงงานที่มีกล้องหลายตัว ควรเผื่อให้ได้อย่างน้อย 1 ชั่วโมงขึ้นไป
3. เลือกชนิด UPS ให้เหมาะกับการใช้งาน
UPS มีหลายประเภท แต่ที่นิยมสำหรับระบบกล้อง ได้แก่
- Line-Interactive UPS เหมาะสำหรับบ้าน ร้านค้า ระบบกล้องขนาดเล็ก – กลาง ราคากลาง ปรับแรงดันไฟฟ้าได้ และสำรองไฟได้ในระดับพื้นฐาน
- True Online (Double Conversion) UPS เหมาะสำหรับ สำนักงาน โรงงาน หรือระบบกล้องใหญ่ ให้ไฟที่คงที่ ไม่กระตุก เหมาะกับอุปกรณ์ไวต่อไฟฟ้าอย่าง NVR หรือเซิร์ฟเวอร์ โดยเฉพาะถ้ามีการใช้งานพร้อมอุปกรณ์อื่นๆ โดยละเอียด
4. ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าและความเข้ากันได้
ตรวจสอบว่า UPS รองรับแรงดันและคลื่นไฟฟ้าที่เหมาะกับกล้องและอุปกรณ์ (บาง UPS ให้คลื่นไฟฟ้า “Pure Sine Wave” ดีสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไว) ตรวจสอบจำนวนเต้ารับ (Outlets) และประเภทของเต้ารับว่าเพียงพอต่อกล้อง PoE, NVR เราเตอร์ และอื่นๆ ไม่แนะนำให้เลือก UPS ที่มีเต้ารับไม่พอ เพราะอาจต้องเสียบปลั๊กภายนอกเพิ่ม ทำให้ระบบไม่เสถียร
5. พิจารณาฟีเจอร์เพิ่มเติม
เมื่อ UPS พื้นฐานครบแล้ว การมีฟีเจอร์เสริมจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวก เช่น
- ระบบป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection) ป้องกันกล้องหรือ NVR เสียหากมีไฟกระโชกหรือไฟเกินแรง
- แจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด แรงดันผิดปกติ ช่วยให้รู้ก่อนกล้องดับ
- การจัดการผ่านแอป ซอฟต์แวร์ เหมาะกับระบบใหญ่ อาจดูสถานะ UPS แบตเตอรี่ โหลด เวลาใช้งานสำรอง และอื่นๆ จากมือถือหรือคอมพิวเตอร์
ฟีเจอร์พวกนี้ช่วยให้ระบบปลอดภัยและดูแลง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับร้านค้า สำนักงาน หรือบ้านที่มีอุปกรณ์เยอะ
6. ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ
เลือก UPS จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีรับประกัน และบริการหลังการขายดี เพื่อความมั่นใจในระยะยาว แนะนำ UPS ที่เหมาะกับกล้องวงจรปิด เช่น
- Chuphotic MEGA II 850-2000VA รุ่นนี้เป็น Line – Interactive UPS พร้อมระบบ Stabilizer ที่เหมาะที่จะใช้งานกับคอมพิวเตอร์ และ กล้องวงจรปิด โดยกำลังขนาด 850-2000VA เหมาะกับ UPS กล้องวงจรปิด 4 ตัว ระบบกล้องขนาดเล็ก – กลาง เช่น บ้าน หรือร้านค้า ซึ่งต้องการสำรองไฟและกรองแรงดันไฟ
Chuphotic Pluto OA 800-1000VA รุ่นนี้มีขนาด 800 – 1000VA และเป็น Line Interactive UPS with Stabilizer รับแรงดันไฟขาเข้าได้กว้าง (145 – 290 Vac) หากต้องการ UPS กล้องวงจรปิด 8 ตัวคอมพิวเตอร์ PC / Home / Office คอมพิวเตอร์ Gaming โดยระบบกล้องวงจรปิดงานกล้องวงจรปิดที่อาจมีหลายจุดแต่โหลดรวมไม่สูงมาก
การติดตั้ง UPS สำหรับกล้องวงจรปิด
- วาง UPS ในตำแหน่งเหมาะสม เลือกพื้นที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่โดนแดดหรือความชื้น หลีกเลี่ยงการวางบนพื้นโดยตรง ควรยกสูงเล็กน้อยเพื่อป้องกันฝุ่นและน้ำ วางใกล้ปลั๊กไฟและอุปกรณ์ CCTV เพื่อให้เดินสายง่าย ไม่ยุ่งเหยิง
- การเชื่อมต่อกับกล้อง เสียบปลั๊ก NVR / DVR, PoE Switch เราเตอร์ และอุปกรณ์สำคัญอื่นๆ เข้ากับช่องสำรองไฟของ UPS ตรวจสอบกำลังไฟของ UPS ว่ารองรับอุปกรณ์ทั้งหมดได้ ไม่ควรเสียบอุปกรณ์ที่กินไฟสูง เช่น ปริ้นเตอร์ หรือคอมเพรสเซอร์ ร่วมกับ UPS สำหรับกล้อง
- ตรวจสอบการทำงานหลังติดตั้ง ทดสอบโดยดึงปลั๊กไฟหลัก เพื่อดูว่า UPS สามารถสำรองไฟให้กล้องทำงานต่อได้หรือไม่ ตรวจสอบว่ากล้องยังบันทึกภาพ NVR ยังทำงาน และอินเทอร์เน็ตยังออนไลน์ สังเกตไฟสถานะของ UPS ว่าทำงานปกติ ไม่มีเสียงเตือนผิดปกติ
- บำรุงรักษา UPS อย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบแบตเตอรี่ทุก 6 – 12 เดือน ว่าเสื่อมไหม หรือมีไฟสำรองลดลงหรือไม่ ทำความสะอาดช่องระบายอากาศและบริเวณรอบ UPS ให้ปราศจากฝุ่น ทดสอบระบบสำรองไฟเป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่า UPS พร้อมใช้งานจริง เปลี่ยนแบตเตอรี่ตามรอบอายุการใช้งาน (โดยทั่วไป 2 – 3 ปี)
การดูแลรักษา UPS เพื่อยืดอายุใช้งาน
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ทุก 2 – 3 ปี เพื่อให้ UPS สำรองไฟได้เต็มประสิทธิภาพ ลดโอกาสที่ระบบดับกะทันหันเมื่อไฟตกหรือไฟดับ
- ตรวจสอบสัญญาณเตือนทุกเดือน หากมีเสียงเตือนหรือไฟแจ้งสถานะผิดปกติ ควรตรวจสอบทันที เพราะอาจหมายถึงแบตเตอรี่เสื่อม หรือการจ่ายไฟไม่เสถียร
- หลีกเลี่ยงต่ออุปกรณ์ที่กินไฟเกินจำเป็น อย่าใช้ UPS ร่วมกับอุปกรณ์ที่ใช้กำลังไฟสูง เช่น ปริ้นเตอร์ ฮีตเตอร์ พัดลมตัวใหญ่ เพราะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วและ UPS ทำงานหนักเกินไป
- ทำความสะอาดช่องระบายลม ฝุ่นที่สะสมจะทำให้ UPS ร้อนง่าย ส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน ควรเช็ดทำความสะอาดหรือใช้ลมเป่าอย่างน้อยเดือนละครั้ง
สรุป
UPS คืออุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้กล้องวงจรปิดทำงานได้ต่อเนื่องแม้เกิดไฟดับ ช่วยป้องกันปัญหาไฟตก ไฟกระชาก และลดความเสียหายต่อ DVR / NVR รวมถึงป้องกันข้อมูลสูญหายจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด หากเลือก UPS ที่เหมาะสมตามวิธีที่แนะนำ ระบบกล้องก็จะมีความเสถียรและใช้งานได้ยาวนาน คนที่มีบ้าน ร้านค้า สำนักงาน หรืออาคารที่ต้องการความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ควรติดตั้ง UPS เพื่อให้ระบบรักษาความปลอดภัยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์
หากกำลังมองหา UPS ใช้ กับกล้องวงจรปิด UPS สำหรับ CCTV ที่ใช้กับระบบขนาดเล็กไปจนถึงเครือข่ายกล้องวงจรปิดในอาคารขนาดใหญ่ มีตัวเลือกหลากหลายที่ให้กำลังไฟเหมาะสม สำรองได้ยาวนาน พร้อมระบบป้องกันไฟตก ไฟกระชาก ประสิทธิภาพ Chuphotic พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายแบบมืออาชีพ มั่นใจได้ว่าระบบกล้องวงจรปิดของคุณทำงานได้เสถียร ปลอดภัย และพร้อมปกป้องพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าผิดปกติรูปแบบใดก็ตาม
FAQ — คำถามที่พบบ่อย
UPS สำหรับกล้องวงจรปิด 16 ตัว ซื้อได้ที่ไหน?
สามารถซื้อได้ Chuphotic ที่มีตัวเลือกหลากหลาย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายแบบมืออาชีพ
UPS ทำให้กล้องเสียไหม?
โดยปกติ UPS ไม่ทำให้กล้องเสีย ตรงกันข้ามยังช่วยป้องกันไฟกระชากและไฟตก แต่ต้องเลือกกำลังไฟให้เหมาะสมและใช้แบรนด์ที่ได้มาตรฐาน
ใช้ Power Bank แทน UPS ได้ไหม?
ไม่แนะนำ เพราะ Power Bank ไม่ได้ออกแบบให้จ่ายไฟต่อเนื่องยาวนานและไม่รองรับแรงดันไฟที่ต้องการสำหรับ NVR / PoE Switch ทำให้ระบบขัดข้องได้ง่าย
ควรเลือก UPS กี่วัตต์สำหรับกล้อง?
ให้คำนวณรวมวัตต์ของกล้อง NVR / PoE Switch และเราเตอร์ทั้งหมด แล้วเผื่อกำลังไฟอีก 20 – 30% เพื่อให้ UPS รับโหลดได้อย่างปลอดภัยและสำรองไฟได้นานขึ้น
กล้อง Wi-Fi ใช้ UPS ได้ไหม?
ใช้ได้ โดยต้องต่อ UPS ให้กับเราเตอร์ โมเด็ม และอะแดปเตอร์ของกล้อง เพื่อให้ระบบออนไลน์ต่อเนื่องแม้ไฟดับ
UPS เสียบไว้ตลอดได้ไหม?
ได้ เพราะUPS ถูกออกแบบให้ทำงานตลอดเวลา แค่ดูแลทำความสะอาดและตรวจเช็กแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งาน
กล้อง IP ต้องใช้ UPS แบบไหน?
ควรใช้ UPS ที่รองรับโหลดของ PoE Switch และ NVR ได้ เช่น Line-interactive หรือ Online UPS สำหรับระบบที่ต้องการความเสถียรสูง
UPS มีอายุการใช้งานกี่ปี?
ตัวเครื่องใช้ได้หลายปี แต่แบตเตอรี่ควรเปลี่ยนทุก 2 – 3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานและความถี่ของไฟดับ
ไฟตกบ่อย ควรใช้ UPS แบบไหน?
ควรใช้ Online UPS หรือ Line-Interactive UPS ที่มีระบบควบคุมแรงดันไฟอัตโนมัติ (AVR) เพื่อป้องกันอุปกรณ์เสียหายและให้ไฟคงที่ตลอดเวลา

