fbpx

วิธีเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิด ให้คุ้มค่า และเหมาะกับการใช้งาน

  • Home
  • เกร็ดความรู้
  • วิธีเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิด ให้คุ้มค่า และเหมาะกับการใช้งาน
วิธีเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิด ให้คุ้มค่า และเหมาะกับการใช้งาน

วิธีเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิด ให้คุ้มค่า และเหมาะกับการใช้งาน

Key Takeaway

  • UPS ช่วยให้ระบบกล้องทำงานต่อเนื่องแม้ไฟดับ ป้องกันการหยุดบันทึกภาพที่อาจพลาดเหตุการณ์สำคัญ รองรับแรงดันไฟ ป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์จากไฟตก ไฟกระชาก และยืดอายุการใช้งานของระบบกล้องทั้งหมด
  • UPS สำหรับกล้องวงจรปิด มี 3 ได้แก่ Offline, Line-Interactive และ Online ต่างกันที่ความเสถียรของไฟและการป้องกันไฟฟ้ารบกวน Line-Interactive และ Online เหมาะกับระบบกล้องที่ต้องการความต่อเนื่องและความปลอดภัยสูงกว่าแบบพื้นฐาน
  • ควรเลือก UPS ตามกำลังไฟรวมของกล้องและอุปกรณ์ที่ใช้งาน เวลาสำรองไฟที่ต้องการ ประเภท UPS ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม เช่น บ้าน สำนักงาน หรือโรงงาน และพิจารณาฟีเจอร์เสริม เช่น Surge Protection และระบบแจ้งเตือน เพื่อให้ใช้งานได้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ปกป้องบ้านหรือธุรกิจ แต่ไฟดับเพียงไม่กี่วินาที… ภาพก็สะดุด อาจพลาดเหตุการณ์สำคัญแบบไม่รู้ตัว นี่คือเหตุผลว่าทำไม “UPS” จึงเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ แต่จะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับจำนวนกล้องและการใช้งานจริง? บทความนี้พาไปรู้จักเทคนิคเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิดแบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องเป็นช่างก็เลือกได้ถูกต้อง ช่วยให้ระบบทำงานต่อเนื่อง ปลอดภัย และคุ้มค่า!

UPS คืออะไร จำเป็นจริงไหม?

UPS คืออะไร จำเป็นจริงไหม?

UPS คือ อุปกรณ์สำรองไฟฟ้าแบบไม่สะดุด ทำหน้าที่จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องเมื่อเกิดเหตุไฟดับ ไฟตก ไฟกระชาก หรือแรงดันไฟไม่คงที่ เพื่อป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์สำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ ระบบกล้องวงจรปิด หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์

UPS จะเริ่มจ่ายไฟทันทีอัตโนมัติภายในเสี้ยววินาที ทำให้การทำงานของอุปกรณ์ไม่หยุดชะงักและลดความเสี่ยงสูญหายของข้อมูลหรือความเสียหายของฮาร์ดแวร์

ส่วนประกอบหลักของ UPS

  • แบตเตอรี่ (Battery) แหล่งเก็บพลังงานสำรองสำหรับจ่ายไฟเมื่อไฟฟ้าปกติขัดข้อง
  • อินเวอร์เตอร์ (Inverter) ตัวแปลงไฟจากกระแสตรง (DC) ของแบตเตอรี่ให้เป็นกระแสสลับ (AC) เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • วงจรควบคุมระบบและที่ชาร์จ (Control & Charger) ช่วยควบคุมการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ ตรวจสอบสถานะไฟฟ้า สั่งให้ระบบสลับมาใช้แบตเตอรี่เมื่อไฟขัดข้อง รวมถึงป้องกันไฟตก – ไฟเกิน

UPS จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความเสถียร ปลอดภัย และทำงานต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุปกรณ์ที่ต้องการความมั่นคงของไฟสูง เช่น กล้องวงจรปิดและเซิร์ฟเวอร์ธุรกิจ

ประโยชน์ของการใช้ UPS สำหรับกล้องวงจรปิด

ประโยชน์ของการใช้ UPS สำหรับกล้องวงจรปิด

  1. ป้องกันการหยุดชะงักของกล้อง
    UPS ช่วยให้ระบบกล้องวงจรปิดทำงานต่อเนื่องแม้เกิดไฟดับหรือไฟตก ทำให้กล้องไม่หยุดทำงานและลดการพลาดภาพเหตุการณ์สำคัญ
  2. ป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์
    เมื่อเกิดไฟกระชากหรือแรงดันไฟไม่เสถียร อาจทำให้กล้อง NVR / DVR หรือสวิตช์เครือข่ายเสียหายได้ UPS จะช่วยกรองและปรับแรงดันไฟให้คงที่ ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
  3. บันทึกข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
    หากไฟดับแบบกะทันหัน อาจทำให้ไฟล์วิดีโอเสียหายหรือบันทึกไม่สมบูรณ์ UPS จะช่วยให้เครื่องบันทึกยังคงทำงานต่อ หรือมีเวลาพอให้ระบบปิดตัวลงอย่างปลอดภัยเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
  4. เพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัย
    กล้องวงจรปิดสามารถทำงานได้แม้ไฟฟ้ามีปัญหา ทำให้มั่นใจได้ว่าพื้นที่ยังอยู่ภายใต้การเฝ้าระวัง ลดความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดคิด เช่น การบุกรุกหรือเหตุร้ายที่อาจเกิดช่วงไฟดับ

ประเภทของ UPS สำหรับกล้องวงจรปิด

  1. Offline / Standby ทำงานโดยจ่ายไฟจากระบบไฟบ้านโดยตรง และจะสลับมาใช้แบตเตอรี่เมื่อไฟดับหรือแรงดันผิดปกติ เหมาะสำหรับระบบกล้องขนาดเล็กหรือพื้นที่ที่ไฟค่อนข้างนิ่ง ราคาประหยัดและใช้พลังงานน้อย แต่มีเวลาเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟ (Transfer Time) เล็กน้อย อาจไม่เหมาะกับอุปกรณ์ที่ทำงานไว
  2. Line-Interactive มีระบบปรับแรงดันไฟอัตโนมัติ (Automatic Voltage Regulation: AVR) ช่วยรักษาแรงดันให้คงที่โดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รองรับไฟตกและไฟเกินได้ดีกว่าแบบ Offline ทำให้เหมาะกับกล้องวงจรปิดในบ้านและออฟฟิศทั่วไป มี Transfer Time น้อยลงและให้ความเสถียรสูงขึ้น
  3. Online / Double Conversion จ่ายไฟผ่านระบบแปลงไฟสองชั้น (AC ไป DC ไป AC) ทำให้ไฟที่ออกมาสะอาดและเสถียรที่สุด ไม่มี Transfer Time เพราะไฟถูกจ่ายจากอินเวอร์เตอร์ตลอดเวลา ป้องกันไฟกระชาก ไฟตก ไฟเกิน และสัญญาณรบกวนได้ดี เหมาะกับระบบกล้องวงจรปิดในพื้นที่อาคารสำนักงาน โรงงาน หรือพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
6 วิธีเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิด

6 วิธีเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิด

การเลือก UPS ให้เหมาะกับระบบกล้องวงจรปิดควรคำนึงกำลังไฟที่ต้องการ เวลาสำรองไฟ สภาพแวดล้อมการใช้งาน และฟีเจอร์เสริมที่ช่วยรักษาความต่อเนื่องของการบันทึกและความปลอดภัยของระบบ ไปดู 6 ข้อที่ทำตามได้จริงถ้าจะเลือก UPS สำหรับกล้องวงจรปิด

1. ประเมินกำลังไฟของกล้อง

ควรคำนวณ “ภาระไฟฟ้า (Load)” ของระบบ CCTV ทั้งชุด รวมกล้องหลายตัว PoE-switch, NVR / DVR เราเตอร์หรือโมเด็ม (ถ้าให้กล้องออนไลน์ได้) และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพราะหาก UPS ที่เลือกมีกำลังไฟไม่พอ อาจไม่สามารถสำรองไฟได้จริงเมื่อไฟดับ

วิธีคำนวณ

  • ดูสเปกของกล้องและอุปกรณ์ว่าใช้กี่วัตต์ (Watt) หรือโวลต์ – แอมป์ (VA) ถ้าค่าเป็น VA ให้แปลงเป็น Watt (โดยทั่วไป Watt ≈ VA × 0.8–0.9)
  • นำค่าทั้งหมดมารวม และเผื่อสำรอง ไว้ประมาณ 20 – 30% เผื่อมีการเพิ่มอุปกรณ์ในอนาคตหรือไฟขึ้นทันที

ถ้าระบบที่ใช้มีกล้องหลายตัว + NVR + PoE switch + เราเตอร์ แนะนำให้เลือก UPS ที่มีกำลังไฟเยอะกว่าจำนวน Watt รวมเล็กน้อย

2. กำหนดระยะเวลาสำรองไฟ

เมื่อรู้ภาระไฟแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องคิดคือ “ต้องการให้กล้องทำงานต่อเนื่องนานแค่ไหนเมื่อไฟดับ” แค่ให้บันทึกต่อจนไฟกลับมาหรือให้ทำงานหลายชั่วโมง

  • UPS แบบทั่วไปอาจสำรองไฟได้แค่ 15 – 30 นาที ถ้าภาระไม่มาก
  • ถ้าต้องการสำรองให้ยาว เช่น 1 – 2 ชั่วโมง หรือมากกว่า อาจต้องเลือก UPS ที่มีกำลังไฟสูง เสริมกับ แบตเตอรี่ใหญ่ หรือใช้ UPS หลายตัวแบ่งโหลด

ข้อแนะนำ สำหรับบ้านหรือร้านค้า ถ้าระบบไม่ใหญ่มาก สำรอง 20 – 30 นาทีอาจเพียงพอ สำหรับสำนักงานหรือโรงงานที่มีกล้องหลายตัว ควรเผื่อให้ได้อย่างน้อย 1 ชั่วโมงขึ้นไป

3. เลือกชนิด UPS ให้เหมาะกับการใช้งาน

UPS มีหลายประเภท แต่ที่นิยมสำหรับระบบกล้อง ได้แก่

  • Line-Interactive UPS เหมาะสำหรับบ้าน ร้านค้า ระบบกล้องขนาดเล็ก – กลาง ราคากลาง ปรับแรงดันไฟฟ้าได้ และสำรองไฟได้ในระดับพื้นฐาน
  • True Online (Double Conversion) UPS เหมาะสำหรับ สำนักงาน โรงงาน หรือระบบกล้องใหญ่ ให้ไฟที่คงที่ ไม่กระตุก เหมาะกับอุปกรณ์ไวต่อไฟฟ้าอย่าง NVR หรือเซิร์ฟเวอร์ โดยเฉพาะถ้ามีการใช้งานพร้อมอุปกรณ์อื่นๆ โดยละเอียด

4. ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าและความเข้ากันได้

ตรวจสอบว่า UPS รองรับแรงดันและคลื่นไฟฟ้าที่เหมาะกับกล้องและอุปกรณ์ (บาง UPS ให้คลื่นไฟฟ้า “Pure Sine Wave” ดีสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไว) ตรวจสอบจำนวนเต้ารับ (Outlets) และประเภทของเต้ารับว่าเพียงพอต่อกล้อง PoE, NVR เราเตอร์ และอื่นๆ ไม่แนะนำให้เลือก UPS ที่มีเต้ารับไม่พอ เพราะอาจต้องเสียบปลั๊กภายนอกเพิ่ม ทำให้ระบบไม่เสถียร

5. พิจารณาฟีเจอร์เพิ่มเติม

เมื่อ UPS พื้นฐานครบแล้ว การมีฟีเจอร์เสริมจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวก เช่น

  • ระบบป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection) ป้องกันกล้องหรือ NVR เสียหากมีไฟกระโชกหรือไฟเกินแรง
  • แจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด แรงดันผิดปกติ ช่วยให้รู้ก่อนกล้องดับ
  • การจัดการผ่านแอป ซอฟต์แวร์ เหมาะกับระบบใหญ่ อาจดูสถานะ UPS แบตเตอรี่ โหลด เวลาใช้งานสำรอง และอื่นๆ จากมือถือหรือคอมพิวเตอร์

ฟีเจอร์พวกนี้ช่วยให้ระบบปลอดภัยและดูแลง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับร้านค้า สำนักงาน หรือบ้านที่มีอุปกรณ์เยอะ

6. ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ

เลือก UPS จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีรับประกัน และบริการหลังการขายดี เพื่อความมั่นใจในระยะยาว แนะนำ UPS ที่เหมาะกับกล้องวงจรปิด เช่น

  • Chuphotic MEGA II 850-2000VA รุ่นนี้เป็น Line – Interactive UPS พร้อมระบบ Stabilizer ที่เหมาะที่จะใช้งานกับคอมพิวเตอร์ และ กล้องวงจรปิด โดยกำลังขนาด 850-2000VA เหมาะกับ UPS กล้องวงจรปิด 4 ตัว ระบบกล้องขนาดเล็ก – กลาง เช่น บ้าน หรือร้านค้า ซึ่งต้องการสำรองไฟและกรองแรงดันไฟ


Chuphotic Pluto OA 800-1000VA รุ่นนี้มีขนาด 800 – 1000VA และเป็น Line Interactive UPS with Stabilizer รับแรงดันไฟขาเข้าได้กว้าง (145 – 290 Vac) หากต้องการ UPS กล้องวงจรปิด 8 ตัวคอมพิวเตอร์ PC / Home / Office คอมพิวเตอร์ Gaming โดยระบบกล้องวงจรปิดงานกล้องวงจรปิดที่อาจมีหลายจุดแต่โหลดรวมไม่สูงมาก

การติดตั้ง UPS สำหรับกล้องวงจรปิด

  1. วาง UPS ในตำแหน่งเหมาะสม เลือกพื้นที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่โดนแดดหรือความชื้น หลีกเลี่ยงการวางบนพื้นโดยตรง ควรยกสูงเล็กน้อยเพื่อป้องกันฝุ่นและน้ำ วางใกล้ปลั๊กไฟและอุปกรณ์ CCTV เพื่อให้เดินสายง่าย ไม่ยุ่งเหยิง
  2. การเชื่อมต่อกับกล้อง เสียบปลั๊ก NVR / DVR, PoE Switch เราเตอร์ และอุปกรณ์สำคัญอื่นๆ เข้ากับช่องสำรองไฟของ UPS ตรวจสอบกำลังไฟของ UPS ว่ารองรับอุปกรณ์ทั้งหมดได้ ไม่ควรเสียบอุปกรณ์ที่กินไฟสูง เช่น ปริ้นเตอร์ หรือคอมเพรสเซอร์ ร่วมกับ UPS สำหรับกล้อง
  3. ตรวจสอบการทำงานหลังติดตั้ง ทดสอบโดยดึงปลั๊กไฟหลัก เพื่อดูว่า UPS สามารถสำรองไฟให้กล้องทำงานต่อได้หรือไม่ ตรวจสอบว่ากล้องยังบันทึกภาพ NVR ยังทำงาน และอินเทอร์เน็ตยังออนไลน์ สังเกตไฟสถานะของ UPS ว่าทำงานปกติ ไม่มีเสียงเตือนผิดปกติ
  4. บำรุงรักษา UPS อย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบแบตเตอรี่ทุก 6 – 12 เดือน ว่าเสื่อมไหม หรือมีไฟสำรองลดลงหรือไม่ ทำความสะอาดช่องระบายอากาศและบริเวณรอบ UPS ให้ปราศจากฝุ่น ทดสอบระบบสำรองไฟเป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่า UPS พร้อมใช้งานจริง เปลี่ยนแบตเตอรี่ตามรอบอายุการใช้งาน (โดยทั่วไป 2 – 3 ปี)
การดูแลรักษา UPS เพื่อยืดอายุใช้งาน

การดูแลรักษา UPS เพื่อยืดอายุใช้งาน

  • เปลี่ยนแบตเตอรี่ทุก 2 – 3 ปี เพื่อให้ UPS สำรองไฟได้เต็มประสิทธิภาพ ลดโอกาสที่ระบบดับกะทันหันเมื่อไฟตกหรือไฟดับ
  • ตรวจสอบสัญญาณเตือนทุกเดือน หากมีเสียงเตือนหรือไฟแจ้งสถานะผิดปกติ ควรตรวจสอบทันที เพราะอาจหมายถึงแบตเตอรี่เสื่อม หรือการจ่ายไฟไม่เสถียร
  • หลีกเลี่ยงต่ออุปกรณ์ที่กินไฟเกินจำเป็น อย่าใช้ UPS ร่วมกับอุปกรณ์ที่ใช้กำลังไฟสูง เช่น ปริ้นเตอร์ ฮีตเตอร์ พัดลมตัวใหญ่ เพราะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วและ UPS ทำงานหนักเกินไป
  • ทำความสะอาดช่องระบายลม ฝุ่นที่สะสมจะทำให้ UPS ร้อนง่าย ส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน ควรเช็ดทำความสะอาดหรือใช้ลมเป่าอย่างน้อยเดือนละครั้ง

สรุป

UPS คืออุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้กล้องวงจรปิดทำงานได้ต่อเนื่องแม้เกิดไฟดับ ช่วยป้องกันปัญหาไฟตก ไฟกระชาก และลดความเสียหายต่อ DVR / NVR รวมถึงป้องกันข้อมูลสูญหายจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด หากเลือก UPS ที่เหมาะสมตามวิธีที่แนะนำ ระบบกล้องก็จะมีความเสถียรและใช้งานได้ยาวนาน คนที่มีบ้าน ร้านค้า สำนักงาน หรืออาคารที่ต้องการความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ควรติดตั้ง UPS เพื่อให้ระบบรักษาความปลอดภัยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์

หากกำลังมองหา UPS ใช้ กับกล้องวงจรปิด UPS สำหรับ CCTV ที่ใช้กับระบบขนาดเล็กไปจนถึงเครือข่ายกล้องวงจรปิดในอาคารขนาดใหญ่ มีตัวเลือกหลากหลายที่ให้กำลังไฟเหมาะสม สำรองได้ยาวนาน พร้อมระบบป้องกันไฟตก ไฟกระชาก ประสิทธิภาพ Chuphotic พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายแบบมืออาชีพ มั่นใจได้ว่าระบบกล้องวงจรปิดของคุณทำงานได้เสถียร ปลอดภัย และพร้อมปกป้องพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าผิดปกติรูปแบบใดก็ตาม

FAQ — คำถามที่พบบ่อย

UPS สำหรับกล้องวงจรปิด 16 ตัว ซื้อได้ที่ไหน?

สามารถซื้อได้ Chuphotic ที่มีตัวเลือกหลากหลาย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายแบบมืออาชีพ

UPS ทำให้กล้องเสียไหม?

โดยปกติ UPS ไม่ทำให้กล้องเสีย ตรงกันข้ามยังช่วยป้องกันไฟกระชากและไฟตก แต่ต้องเลือกกำลังไฟให้เหมาะสมและใช้แบรนด์ที่ได้มาตรฐาน

ใช้ Power Bank แทน UPS ได้ไหม?

ไม่แนะนำ เพราะ Power Bank ไม่ได้ออกแบบให้จ่ายไฟต่อเนื่องยาวนานและไม่รองรับแรงดันไฟที่ต้องการสำหรับ NVR / PoE Switch ทำให้ระบบขัดข้องได้ง่าย

ควรเลือก UPS กี่วัตต์สำหรับกล้อง?

ให้คำนวณรวมวัตต์ของกล้อง NVR / PoE Switch และเราเตอร์ทั้งหมด แล้วเผื่อกำลังไฟอีก 20 – 30% เพื่อให้ UPS รับโหลดได้อย่างปลอดภัยและสำรองไฟได้นานขึ้น

กล้อง Wi-Fi ใช้ UPS ได้ไหม?

ใช้ได้ โดยต้องต่อ UPS ให้กับเราเตอร์ โมเด็ม และอะแดปเตอร์ของกล้อง เพื่อให้ระบบออนไลน์ต่อเนื่องแม้ไฟดับ

UPS เสียบไว้ตลอดได้ไหม?

ได้ เพราะUPS ถูกออกแบบให้ทำงานตลอดเวลา แค่ดูแลทำความสะอาดและตรวจเช็กแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อยืดอายุการใช้งาน

กล้อง IP ต้องใช้ UPS แบบไหน?

ควรใช้ UPS ที่รองรับโหลดของ PoE Switch และ NVR ได้ เช่น Line-interactive หรือ Online UPS สำหรับระบบที่ต้องการความเสถียรสูง

UPS มีอายุการใช้งานกี่ปี?

ตัวเครื่องใช้ได้หลายปี แต่แบตเตอรี่ควรเปลี่ยนทุก 2 – 3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานและความถี่ของไฟดับ

ไฟตกบ่อย ควรใช้ UPS แบบไหน?

ควรใช้ Online UPS หรือ Line-Interactive UPS ที่มีระบบควบคุมแรงดันไฟอัตโนมัติ (AVR) เพื่อป้องกันอุปกรณ์เสียหายและให้ไฟคงที่ตลอดเวลา