Showing 1–9 of 37 results

ขายเครื่องปั่นไฟ (Generator)

Chuphotic ตัวแทนขายเครื่องปั่นไฟ (Generator) คุณภาพดี ครบวงจร  

 

Chuphotic เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องปั่นไฟคุณภาพดี มีทุกรุ่น ทุกขนาด การันตีคุณภาพได้จากการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า พร้อมติดตั้ง ให้บริการหลังการขายที่รวดเร็ว มีการรับประกันสินค้า และบริการซ่อมบำรุงแบบครบวงจร

เครื่องปั่นไฟ คืออะไร?

เครื่องปั่นไฟ หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า คือเครื่องจักรที่มีหน้าที่แปลงพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าถูกนำมาใช้ในการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการจ่ายไฟให้กับบ้าน และธุรกิจในระหว่างที่ไฟฟ้าดับ การชาร์จแบตเตอรี่ และการจัดหาพลังงานสำรองสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานโดยใช้แหล่งเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันเบนซิน ดีเซล หรือก๊าซธรรมชาติ เพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์ มอเตอร์จะเปลี่ยนเพลาที่ขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้า จากนั้นไฟฟ้าจะถูกส่งไปยังเต้ารับที่สามารถใช้จ่ายไฟให้กับหลอดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ

แม้ว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะมีประโยชน์มาก แต่ก็อาจเป็นอันตรายได้หากไม่ได้ใช้อย่างเหมาะสม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตเสมอเมื่อใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และห้ามใช้งานภายในอาคาร หรือใกล้วัสดุที่ติดไฟได้

ประเภทของเครื่องปั่นไฟ

ประเภทของเครื่องปั่นไฟ

Chuphotic จำหน่ายเครื่องปั่นไฟอยู่ 2 ประเภท ดังนี้

เครื่องปั่นไฟกระแสตรง (Dynamo)

เครื่องปั่นไฟกระแสตรง หรือเครื่องไดนาโม (Dynamo) เป็นเครื่องปั่นไฟที่แปลงพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีหลักการทำงานคือการสร้างกระแสไฟฟ้า จากขดลวดที่ตัดผ่านสนามแม่เหล็ก ซึ่งให้ขดลวดแม่เหล็กอยู่กับที่ จึงก่อให้เกิดประจุไฟฟ้าขึ้น

เครื่องปั่นไฟกระแสสลับ (Alternator)

เครื่องปั่นไฟกระแสสลับ (Alternator) เป็นเครื่องปั่นไฟที่ออกแบบมาเพื่อทำงานกับกระแสไฟฟ้าที่สลับทิศทาง มีหลักการทำงานคล้ายกับเครื่องปั่นไฟกระแสตรง ซึ่งขดลวดแม่เหล็กอยู่กับที่ แต่แตกต่างตรงที่การตัดผ่านสนามแม่เหล็ก โดยเครื่องปั่นไฟกระแสสลับจะอาศัยตัวนำอาร์เมเจอร์หมุนตัดที่ขั้วของแม่เหล็ก และสนามแม่เหล็กนั้นจะตัดตัวนำอาร์เมเจอร์ ซึ่งขดลวดนั้นจะอยู่กับที่ หรือหมุนก็ได้ เครื่องปั่นไฟกระแสสลับสามารถผลิตแรงเคลื่อนไฟฟ้าได้ค่อนข้างสูง มักจะนำไปใช้ประโยชน์กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ อย่างเช่น ตู้เย็น หลอดไฟ  ทั้งนี้ เครื่องปั่นไฟกระแสสลับ แบ่งออกเป็น 2 ระบบ คือ ระบบไฟฟ้า 1 เฟส และระบบไฟฟ้า 3 เฟส

เครื่องปั่นไฟ มีกี่ขนาด

เครื่องปั่นไฟ มีกี่ขนาด

เครื่องปั่นไฟ มีทั้งหมด 3 ขนาด แต่ละขนาดมีความแตกต่างกัน ซึ่งสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมได้ ดังนี้

เครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก

มีปริมาณ 1 kVA – 20 kVA มีขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถพกพาได้ง่าย และสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะสำหรับใช้งานภายในครัวเรือน เครื่องปั่นไฟขนาดเล็กนั้นมีทั้งระบบไฟฟ้าเฟสเดียว และระบบไฟฟ้า 3 เฟส ซึ่งสามารถเลือกใช้น้ำมันเบนซิน หรือน้ำมันดีเซลก็ได้ โดยส่วนใหญ่มักนำไปใช้ประโยชน์กับงานเกษตร และการตั้งแคมป์ในป่า

เครื่องปั่นไฟขนาดกลาง

มีปริมาณ 50 kVA – 2500 kVA เป็นเครื่องปั่นไฟระบบ 3 เฟส มีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 220/380 โวลต์ขึ้นไป เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่เป็นธุรกิจขนาดกลาง ไปจนถึงอุตสาหกรรมที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ หรือใช้ในโรงพยาบาล โรงแรม หรือธนาคาร รวมไปถึงสถานที่ที่ต้องใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

เครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่

มีปริมาณ 4000 kVA ขึ้นไป ส่วนใหญ่จะใช้ภายในอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ เช่น โรงผลิตไฟฟ้า โรงงานที่เกี่ยวกับพลังงานความร้อน ซึ่งเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาได้ในปริมาณมาก อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคอื่นๆ ได้อีกด้วย

เครื่องปั่นไฟกระแสสลับ 3 เฟสต่างจากเครื่องปั่นไฟปกติอย่างไร

เครื่องปั่นไฟกระแสสลับ 3 เฟสต่างจากเครื่องปั่นไฟปกติอย่างไร

เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟสเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่สร้างกระแสสลับ (AC) โดยใช้ขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้าสามคู่ โดยการเปรียบเทียบ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าปกติจะผลิตไฟฟ้ากระแสสลับโดยใช้ขดลวดสองคู่เท่านั้น

ข้อได้เปรียบหลักของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟสคือสามารถผลิตพลังงานได้มากกว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทั่วไปที่มีขนาดเท่ากัน เนื่องจากทั้งสามเฟสช่วยให้การถ่ายเทพลังงานระหว่างเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และโหลดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟสสามารถจ่ายพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าสามตัวพร้อมกัน ในขณะที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าปกติสามารถจ่ายพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าได้ครั้งละหนึ่งตัวเท่านั้น

ข้อดีอีกประการหนึ่งของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับแบบ 3 เฟสคือสามารถใช้กับโหลดแรงดันไฟฟ้าที่ต่ำกว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าปกติได้ เนื่องจากทั้งสามเฟสช่วยลดปริมาณ “ระลอกคลื่น” ในแรงดันไฟขาออก

เครื่องปั่นไฟทำงานอย่างไร

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็นเครื่องจักรที่น่าทึ่งที่แปลงพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า ในส่วนนี้เราจะขออธิบายคร่าวๆ ว่าเครื่องจักรเหล่านี้ทำงานอย่างไร?

เพื่อให้เข้าใจว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานอย่างไร เราต้องเข้าใจเรื่องไฟฟ้าก่อน ไฟฟ้าคือการไหลของอิเล็กตรอนผ่านตัวนำ เช่น ลวดโลหะ เพื่อให้อิเล็กตรอนไหลได้ จะต้องมีประจุที่แตกต่างกันระหว่างปลายด้านหนึ่งของตัวนำกับอีกด้านหนึ่ง ความแตกต่างของประจุนี้เรียกว่าแรงดันไฟฟ้า

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าใช้หลักการนี้เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า ประกอบด้วยขดลวดหมุนที่เรียกว่ากระดองที่วางอยู่ระหว่างแม่เหล็กสองตัว เมื่อกระดองหมุน มันจะตัดผ่านสนามแม่เหล็กของแม่เหล็ก และสร้างแรงดันไฟฟ้าระหว่างปลายของมัน แรงดันไฟฟ้านี้สามารถนำไปใช้จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้

ประโยชน์ของการใช้เครื่องปั่นไฟ

ประโยชน์ของการใช้เครื่องปั่นไฟ

สำหรับธุรกิจ การสูญเสียอำนาจอาจหมายถึงการสูญเสียรายได้ และประสิทธิภาพการทำงาน หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณจะรู้ว่าการมีแหล่งพลังงานที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญ การใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถให้ประโยชน์มากมายสำหรับธุรกิจ รวมถึงผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำลง และความปลอดภัยที่ดีขึ้น

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถช่วยชีวิตได้ในช่วงที่ไฟฟ้าดับ ทำให้ธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้ในขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ถูกบังคับให้ปิดตัวลง สิ่งนี้สามารถทำให้คุณได้เปรียบเหนือคู่แข่งของคุณอย่างมีนัยสำคัญ

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสามารถช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของธุรกิจของคุณได้ด้วยการจัดหาแหล่งพลังงานที่ถูกกว่าพลังงานกริดแบบเดิม นอกจากนี้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้ายังสามารถปรับปรุงความปลอดภัยโดยการจัดหาพลังงานสำรองในกรณีฉุกเฉิน

ข้อเสียของการใช้เครื่องปั่นไฟกระแสสลับ 3 เฟส

อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียบางประการในการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับแบบสามเฟสที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ

ข้อเสียอย่างหนึ่งของเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับสามเฟส คือต้องการการบำรุงรักษามากกว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบเฟสเดียวระยะพิเศษ หมายความว่ามีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวมากขึ้นที่สามารถสึกหรอ หรือพังตามกาลเวลา ซึ่งอาจนำไปสู่การหยุดทำงานที่เพิ่มขึ้นสำหรับธุรกิจ หรือที่บ้านของคุณ หากจำเป็นต้องซ่อมแซม หรือเปลี่ยนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

ข้อเสียอีกประการหนึ่งของการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับแบบสามเฟสคือ ทำให้เกิดเสียงรบกวนมากกว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบเฟสเดียว นี่อาจเป็นปัญหาได้หากคุณใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าในบริเวณที่มีระดับเสียงดังอยู่แล้ว เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น

วิธีดูแลเครื่องปั่นไฟให้ใช้ได้นาน

วิธีดูแลเครื่องปั่นไฟให้ใช้ได้นาน

เพื่อให้เครื่องปั่นไฟมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และมีประสิทธิภาพในการใช้งาน จึงจำเป็นต้องดูแล และบำรุงรักษา ดังนี้

  1. เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากเครื่องยนต์ จะต้องปิดระบบจ่ายไฟ และปิดสวิตซ์ไฟก่อนทุกครั้ง
  2. ในทุกๆ 20 ชั่วโมง จะต้องตรวจสอบน้ำมันหล่อลื่นของเครื่องยนต์ ตรวจสอบตะกอน และคราบดำ หากพบปัญหาดังกล่าว จะต้องเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นก่อนใช้งาน หมั่นใช้ผ้าแห้งเช็ดหม้อน้ำกลั่นในเครื่องปั่นไฟ ตรวจสอบขั้วสายไฟว่าแน่นพอหรือไม่ และควรใส่น้ำมันหล่อลื่นที่สายพานของเครื่องปั่นไฟทุกครั้งหลังใช้งาน 
  3. ทำความสะอาดหม้อน้ำรังผึ้งด้านนอก โดยการใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ด
  4. ในทุกๆ 3 เดือน ให้เปลี่ยนไส้กรองของน้ำมันหล่อลื่น และถ่ายน้ำมันหล่อลื่น รวมถึงตรวจสอบเหล็กรัดท่อ ท่อสายยาง และสภาพของน็อต
  5. ในทุกๆ 6 เดือน ให้เปลี่ยนไส้กรองอากาศ และไส้กรองเชื้อเพลิงของเครื่องปั่นไฟ 

ข้อควรระวังในการใช้เครื่องปั่นไฟ

การใช้เครื่องปั่นไฟไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดความเสียหาย จนเกิดอันตรายได้ ซึ่งมีข้อควรระวัง ดังนี้

  • ก่อนตรวจสอบเครื่องปั่นไฟ จะต้องปิดเครื่อง รวมถึงปลดสายแบตเตอรี่ออกก่อน 
  • ไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องปั่นไฟยังร้อนอยู่
  • ควรตรวจสอบกระแสไฟ แรงดัน และความถี่ของไฟฟ้า ขณะจ่าย Load อยู่เสมอ
  • หมั่นตรวจสอบแรงดันน้ำมัน และอุณหภูมิของเครื่องปั่นไฟ
  • ควรมีผู้ดูแลเครื่องปั่นไฟ ในขณะที่เครื่องกำลังทำงานอยู่
  • ไม่ควรให้เครื่องปั่นไฟจ่ายกระแสไฟเกินกำลังของเครื่อง

วิธีเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟให้เหมาะสมสำหรับธุรกิจ

ในการเลือกเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับธุรกิจของคุณ มีบางสิ่งที่คุณต้องคำนึงถึง ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการในการเลือกเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ:

  1. กำหนดขนาดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่คุณต้องการ ขนาดของเครื่องปั่นไฟที่คุณต้องการจะขึ้นอยู่กับความต้องการด้านพลังงานของธุรกิจของคุณ หากคุณมีธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความต้องการพลังงานสูง คุณจะต้องมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใหญ่ขึ้น
  2. พิจารณาประเภทเชื้อเพลิง เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีสองประเภทหลัก – เบนซินและดีเซล แต่ละคนมีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง ตัวอย่างเช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเบนซินมักมีราคาถูกกว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล แต่อาจไม่ทนทานหรือประหยัดน้ำมันเท่า
  3. เลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เมื่อพูดถึงเครื่องปั่นไฟ มีหลายยี่ห้อในตลาด

เครื่องปั่นไฟ คือเครื่องจักรที่มีหน้าที่แปลงพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งถูกนำมาใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการจ่ายไฟให้กับบ้าน และธุรกิจในระหว่างที่ไฟฟ้าดับ โดยเครื่องปั่นไฟแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เครื่องปั่นไฟกระแสตรง (Dynamo) และเครื่องปั่นไฟกระแสสลับ (Alternator) ซึ่งเครื่องปั่นไฟกระแสสลับ 3 เฟส สามารถผลิตพลังงานได้มากกว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทั่วไปที่มีขนาดเท่ากัน 

เครื่องปั่นไฟสามารถผลิตไฟฟ้าสำรองให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านได้ในขณะที่ไฟดับ หรือเครื่องจักรในโรงงาน เพื่อให้สามารถทำงานต่อเนื่องได้ไม่ขัดข้อง โดยวิธีการเลือกซื้อเครื่องปั่นไฟให้เหมาะสมกับธุรกิจ จะต้องกำหนดขนาดของเครื่องปั่นไฟที่ต้องการ พิจารณาประเภทเชื้อเพลิง และเลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้ สำหรับใครที่ต้องการซื้อเครื่องปั่นไฟ สามารถซื้อเครื่องปั่นไฟได้จากตัวแทนการขายอย่าง Chuphotic เพราะมีบริการขาย ติดตั้ง ประกัน และการดูแลหลังการขายอย่างใส่ใจ

ศึกษาวิธีการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่

เครื่องปั่นไฟใช้ยังไง วิธีการใช้งานให้ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ