fbpx

ไขข้อสงสัย UPS คืออะไร? รู้จักฟังก์ชันและประโยชน์ที่อาจมองข้าม

  • Home
  • เกร็ดความรู้
  • ไขข้อสงสัย UPS คืออะไร? รู้จักฟังก์ชันและประโยชน์ที่อาจมองข้าม
ไขข้อสงสัย UPS คืออะไร? รู้จักฟังก์ชันและประโยชน์ที่อาจมองข้าม

ไขข้อสงสัย UPS คืออะไร? รู้จักฟังก์ชันและประโยชน์ที่อาจมองข้าม

Key Takeaway
  • UPS หรือ Uninterruptible Power Supply คือเครื่องสำรองไฟที่เป็นแหล่งพลังงานสำรองฉุกเฉิน ช่วยปรับระดับกระแสไฟฟ้าให้มีความเหมาะสมและคงที่สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในช่วงไฟดับหรือผิดปกติ
  • หน้าที่ของ UPS คือจ่ายไฟสำรองทันทีเมื่อไฟดับ ควบคุมแรงดันไฟฟ้าให้เสถียรไม่ให้เกิดไฟกระชาก ป้องกันข้อมูลสำคัญในคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ และช่วยป้องกันสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า
  • UPS สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ Standby UPS, Line-Interactive UPS และ Online UPS
  • วิธีเลือก UPS ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ได้แก่ พิจารณาจากประเภทการใช้งาน ตรวจสอบกำลังวัตต์และ VA รวมถึงความจุของแบตเตอรี่
ในปัจจุบัน การป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์ไฟฟ้าจากปัญหาไฟดับหรือไฟตกกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจส่งผลต่อข้อมูล งาน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างไม่คาดคิด โดย UPS (Uninterruptible Power Supply) จึงมีบทบาทสำคัญในการปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้า  บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจในการทำงานของ UPS (Uninterruptible Power Supply) คืออะไร ทำหน้าที่อะไรบ้าง และเทคนิคเลือกเครื่องสำรองไฟให้เหมาะกับการใช้งานมาฝากกัน!
UPS คืออะไร? หลักการทำงานเป็นอย่างไร

UPS คืออะไร? หลักการทำงานเป็นอย่างไร

UPS ย่อมาจาก Uninterruptible Power Supply คือเครื่องสำรองไฟ ทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเกิดปัญหาไฟกระชาก ไฟกระตุก หรือไฟดับ นอกจากนี้ UPS หรือเครื่องสำรองไฟยังช่วยทำหน้าที่ในการปรับระดับกระแสไฟฟ้าให้มีความเหมาะสมและคงที่สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในช่วงที่ระบบไฟฟ้าหลักเกิดความไม่เสถียรหรือผิดปกติ

 

เครื่องสำรองไฟ (UPS) ทำงานด้วยการรับไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จากแหล่งจ่ายไฟหลัก แล้วแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) เพื่อเก็บพลังงานบางส่วนไว้ในแบตเตอรี่สำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน กล่าวคือ เมื่อเกิดปัญหาไฟฟ้าขัดข้องหรือไฟดับ เครื่อง UPS จะทำหน้าที่นำพลังงานที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่มาแปลงกลับจากไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ไปเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เพื่อจ่ายให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เชื่อมต่ออยู่ ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถทำงานได้ต่อเนื่องแม้ในเวลานั้นจะเกิดไฟฟ้าขัดข้องก็ตาม

หน้าที่ของ UPS มีอะไรบ้าง?

หน้าที่ของ UPS มีอะไรบ้าง?

ปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในบ้านได้ เครื่องสำรองไฟจึงจำเป็น โดย UPS มีหน้าที่ดังนี้

จ่ายไฟสำรองทันทีเมื่อไฟดับ

หากเกิดไฟดับในช่วงที่กำลังทำงานสำคัญมาทั้งวันและยังไม่ได้บันทึกงาน คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร การติดตั้ง UPS คือทางออกที่จะช่วยให้มีเวลาในการบันทึกงาน สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น ไร้กังวล แม้ว่าไฟฟ้าเกิดขัดข้องก็ตาม

ควบคุมแรงดันไฟฟ้าให้เสถียร ไม่เกิดไฟกระชาก

โดยปกติกระแสไฟฟ้าที่จ่ายตามบ้านเรือนมีค่ามาตรฐานแรงดันไฟฟ้าจะอยู่ที่ 220 โวลต์ ซึ่งเหมาะสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป แต่เมื่อเกิดเหตุขัดข้องแรงดันไฟฟ้าอาจลดเหลือเพียง 170 – 200 โวลต์ ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานหนักขึ้น ชิ้นส่วนอาจเสียหายหรือลัดวงจรได้ Uninterruptible Power Supply คือตัวช่วยควบคุมแรงดันไฟฟ้าให้มีความเสถียร ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากไฟดับหรือไฟตก

ป้องกันข้อมูลสำคัญ ในคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์

UPS (Uninterruptible Power Supply) คือตัวช่วยปกป้ององค์กรจากความเสียหาย โดยการสำรองไฟให้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำคัญทำงานต่อเนื่องแม้ในภาวะฉุกเฉิน ป้องกันการสูญหายของข้อมูลที่ยังไม่ได้บันทึก และรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจแม้เผชิญปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง

ช่วยป้องกันสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า

หนึ่งในสาเหตุที่สร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์คือ คลื่นสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า (Electrical Noise) ซึ่งเกิดจากการเหนี่ยวนำของแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Interference) หรือคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency Interference) การติดตั้งเครื่องสำรองไฟจะช่วยป้องกันความเสียหายจากสัญญาณรบกวนเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วยชิ้นส่วนสำคัญหลายอย่าง ทั้งแผงวงจร เซนเซอร์ ฮาร์ดดิสก์ ฯลฯ เมื่อเกิดไฟตกหรือไฟดับ กระแสไฟฟ้าจะผันผวนทำให้การจ่ายไฟไม่เสถียรหรือเกิดไฟกระชาก ซึ่งอาจทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เสื่อมสภาพ เสียหาย หรือลัดวงจรได้ เครื่องสำรองไฟถูกออกแบบมาให้รับมือกับปัญหาดังกล่าว ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้อีกด้วย

ประเภทของ UPS มีอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ

ประเภทของ UPS มีอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ

เครื่องสำรองไฟ หรือ Uninterruptible Power Supply คือ ตัวช่วยสำคัญเมื่อเกิดไฟฟ้าขัดข้อง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ มาดูกันว่ามีกี่ประเภท? อะไรบ้าง?

1. Standby UPS

Standby UPS หรือเครื่องสำรองไฟฟ้าแบบออฟไลน์ คือ UPS ที่มีราคาถูกที่สุดในบรรดาทุกประเภท โดยทำงานรับกระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายหลัก เช่น การไฟฟ้าโดยตรง พร้อมกับเก็บพลังงานสำรองไว้ในแบตเตอรี่ เมื่อเกิดไฟดับ ตัวเครื่องจะใช้ Transfer Switch หรือเครื่องสับเปลี่ยน เพื่อเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟจากระบบหลักไปยังเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าของ UPS เพื่อจ่ายไฟสำรองให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่ในกรณีไฟตกหรือเกิดความขัดข้องในระยะสั้น ตัวสับเปลี่ยนอาจสับเปลี่ยนไม่ทันทำให้อุปกรณ์ได้รับไฟฟ้าที่มีคุณภาพต่ำได้

เครื่องสำรองไฟ (UPS) จะเหมาะสำหรับการใช้งานกรณีไฟดับ และมีข้อดีคือราคาถูก แต่มีข้อจำกัดคือไม่สามารถควบคุมหรือปรับแรงดันไฟฟ้าได้ จึงต้องระมัดระวังไฟฟ้าเกินหรือคุณภาพไฟฟ้าที่อาจส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ได้

2. Line-Interactive UPS

Line-Interactive UPS คล้ายคลึงกับ Standby UPS แต่มีระบบ Stabilizer หรือระบบปรับแรงดันไฟฟ้าโดยอัตโนมัติที่ช่วยรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าเมื่อเกิดไฟตก ทำให้ UPS ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่บ่อยครั้งในกรณีไฟตกเล็กน้อย เหมาะกับสภาพไฟฟ้าในประเทศไทยที่มีการตกบ่อยๆ โดยมีราคาที่ไม่สูงมาก แต่มีข้อจำกัดคือไม่สามารถแก้ไขความถี่ไฟฟ้าได้ จึงไม่เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น เครื่องมือแพทย์

3. Online UPS

Online UPS คือเครื่องสำรองไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยระบบแบตเตอรี่และเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าทำงานตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นไฟดับ ไฟตก หรือไฟเกิน ทำให้จ่ายไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและเสถียร ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอุปกรณ์ เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรสูง ข้อจำกัดคือมีราคาสูงกว่าเครื่องสำรองไฟฟ้าประเภทอื่นๆ และมีการออกแบบที่ซับซ้อน ตัวเครื่องมีน้ำหนักมากกว่า

เคล็ดลับการดูแลรักษา UPS

เคล็ดลับการดูแลรักษา UPS

การดูแลรักษาเครื่องสำรองไฟอย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ไฟดับหรือไฟตกได้ ดังนี้

การเปลี่ยนแบตเตอรี่

โดยทั่วไป แบตเตอรี่ของ UPS จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 2 – 5 ปี โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมและการใช้งานที่จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง เช่น อุณหภูมิที่สูงเกินไป ความชื้นในบริเวณที่ติดตั้ง การคายประจุแบตเตอรี่ในระยะเวลาสั้นๆ และบ่อยครั้ง และความไม่เสถียรของแหล่งจ่ายไฟหลัก เช่น ไฟตก ไฟเกินบ่อยครั้ง รวมถึงหมั่นสังเกตลักษณะภายนอกของแบตเตอรี่ หากพบว่าแบตเตอรี่มีอาการบวม เปลี่ยนรูปร่าง หรือมีความผิดปกติอื่นๆ ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของเครื่องสำรองไฟ

การตรวจสอบเป็นประจำ

การดูแลรักษาเครื่องสำรองไฟฟ้านั้นสามารถทำได้ด้วยการทดสอบการทำงานของเครื่องสำรองไฟฟ้าอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องยังคงทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพ และแบตเตอรี่ยังคงมีกำลังที่เพียงพอ รวมถึงปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการใช้งานเกินกำลังที่เครื่องรองรับ หากพบความผิดปกติใดๆ ควรติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการตรวจสอบและซ่อมแซม โดยไม่ควรซ่อมด้วยตัวเอง

ทำไมถึงควรใช้ UPS

ใครบ้างที่ควรใช้เครื่องสำรองไฟฟ้า

ปฎิเสธไม่ได้ว่าไฟฟ้าคือหนึ่งในปัจจัยหลักของการดำรงชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบัน เมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องก็มักก่อให้เกิดอุปสรรคในการใช้ชีวิตและการทำงาน ดังนั้นการมีเครื่องสำรองไฟเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินจึงเป็นสิ่งจำเป็น มาดูกันดีกว่าว่ามีใครบ้างที่จะได้ประโยชน์จากการติดตั้งเครื่องสำรองไฟ

    • บุคคลทั่วไป ในบ้านพักอาศัย เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เสียหาย เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนตัว ลำโพง เครื่องเสียง และโทรทัศน์ เป็นต้น
    • ออฟฟิศและสำนักงาน มีเครื่องคอมพิวเตอร์ พรินเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ มากมาย การติดตั้งเครื่องสำรองไฟ จะมีส่วนช่วยปกป้องเครื่องใช้ในสำนักงานได้
    • คลีนิกหมอ หรือโรงพยาบาล มีเครื่องมือทางการแพทย์ และเครื่องช่วยหายใจ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้รักษาคนไขมากมาย หากไฟดับ แต่ไม่มีเครื่องสำรองไฟอาจทำให้ผ้ป่วยเกิดอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นการติดเครื่องสำรองไฟจึงเป็นตัวช่วยที่ดี
    • โรงงานอุตสาหกรรม มีระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องจักร ระบบสื่อสาร และระบบคอมพิวเตอร์มากมาย ยิ่งโรงงานที่เป็น Smart Factory ยิ่งาศัยการทำงานของระบบไฟฟ้า หากไฟดับอาจทำให้ระบบการสั่งงานเสียงาน และกระทบต่อกำลังการผลิตได้
    • Data Center / Server เป็นสถานที่ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ทั้งรูปภาพ เสียง และวิดีโอ ถือเป็นสถานที่ที่มีการใช้งานแถบจะตลอดเวลา ดังนั้นจึงเหมาะที่จะติดตั้งเครื่องสำรองไฟเพื่อการทำงานที่ราบรื่น รวมถึงเพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

UPS คือเครื่องสำรองไฟฟ้าที่มีหน้าที่จ่ายพลังงานต่อเนื่องเมื่อเกิดไฟดับ ปรับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ ป้องกันข้อมูลสูญหาย ลดสัญญาณรบกวน และยืดอายุอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โดย Uninterruptible Power Supply มี 3 ประเภทหลักคือ Standby UPS ที่เหมาะสำหรับไฟดับและมีราคาถูก Line-Interactive UPS โดดเด่นเรื่องปรับแรงดันไฟ เหมาะสำหรับไฟตก และ Online UPS ที่มีความเสถียรสูง เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต้องการความแม่นยำอย่างอุปกรณ์การแพทย์ โดยปัจจัยในการเลือกซื้อ UPS ควรพิจารณาจากประเภทการใช้งาน กำลังวัตต์ที่เหมาะสม และความจุแบตเตอรี่ 

ปัญหาไฟตก ไฟดับ จัดการได้ด้วยการเลือกซื้อเครื่องสำรองไฟฟ้าที่มีคุณภาพดี แนะนำเป็น Chuphotic ที่มีตัวเลือกหลากหลาย เหมาะสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยคำแนะนำจากทีมงานมืออาชีพ