เช็กอาการแบตเครื่องสำรองไฟเสื่อม รู้เร็ว เปลี่ยนได้ทันเวลา
หากเกิดสถานการณ์ไฟไหม้หรือไฟดับ ใครหลายคนอาจเกิดความกังวลเมื่อความมืดเข้าปกคลุมทั่วบริเวณ เพราะไม่มีไฟฟ้าให้ใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันการมีเครื่องสำรองไฟจะทำให้คุณสามารถคลายความวิตกได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อมีการใช้งานในระยะยาวก็อาจทำให้แบตของเครื่องสำรองไฟมีการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ทำให้ต้องมีการสังเกตอาการของแบตเป็นประจำ และบทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจให้ว่า แบต UPS เสื่อมดูยังไง ? และสาเหตุของความเสื่อมมีอะไรบ้าง

แบต UPS คืออะไร?
แบต UPS เป็นส่วนหนึ่งของ เครื่องสำรองไฟฟ้า ที่สามารถจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งในช่วงเวลาไฟดับ ซึ่งหน้าที่หลักของแบต UPS คือการป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และทำหน้าที่ในการจ่ายพลังงานไปยังอุปกรณ์ดังกล่าวเมื่อไฟขัดข้อง ด้วยการแปลงไฟฟ้าจากกระแสสลับเป็นไฟฟ้ากระแสตรง แล้วนำไปเป็นพลังงานสำรองเพื่อใช้งานภายหลัง และเมื่อมีการใช้งานมาเป็นเวลานาน คุณจึงควรเปลี่ยนแบต UPS เมื่อแบตเสื่อม เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานของเครื่องสำรองต่อไป
อาการของแบต UPS เสื่อม
สำหรับใครที่สงสัยว่า แบต UPS เสื่อมดูยังไง สามารถสังเกตได้จากอาการของเครื่องสำรองไฟฟ้า ได้แก่ ไม่มีการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์อื่น เครื่องส่งเสียงร้องและดับลงเอง มีข้อความเตือนปรากฏ และเครื่องไม่ตอบสนอง
หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น คุณสามารถตรวจสอบแบต UPS ได้ด้วยวิธีการง่ายๆ คือ การตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไปยังเครื่องสำรองไฟ แล้วสังเกตว่ามีการจ่ายไฟฟ้าหรือระยะเวลาที่เครื่องจ่ายมีระยะเวลามากน้อยแค่ไหน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงแรกที่ใช้งาน

สาเหตุที่แบต UPS เสื่อม
ในการใช้งานเครื่องสำรองไฟฟ้า เบื้องต้นคุณควรรู้ถึงสาเหตุที่อาจส่งผลให้แบตเตอรี่ภายในเสื่อมสภาพ เพื่อป้องกันการเสื่อมก่อนเวลาอันควร
แบต UPS อยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูง
อุณหภูมิที่แตกต่างกัน ส่งผลต่ออายุการทำงานของแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟมากถึง 50% เพราะเครื่องดังกล่าวจะไม่สามารถทำงานได้ หากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำจนเกินไป แบต UPS จะเสื่อม โดยอุณหภูมิห้องที่เหมาะสมสำหรับเครื่องสำรองไฟคือ 20-25 องศาเซลเซียส
ใช้งานแบต UPS ผิดวิธีการใช้งาน
ไม่ว่าอุปกรณ์ชิ้นใดที่ถูกใช้งานในรูปแบบที่ผิดจุดประสงค์ จะมีอายุการใช้งานที่เสื่อมถอยลงไปอยู่แล้ว รวมไปถึงเครื่องสำรองไฟเช่นกัน ซึ่งแบต UPS ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในระยะเวลาไม่เกิน 15 นาที ดังนั้นหากคุณใช้แบตในระยะเวลาที่มากกว่านั้นเป็นประจำ อายุการใช้งานของแบต UPS ก็จะลดลงและเสื่อมอย่างแน่นอน
แบต UPS เหลือน้อย
ถึงแม้ว่าในทุกครั้งที่มีการชาร์จแบตเตอรี่หลังการใช้งาน (Discharge Cycle) จะทำให้รอบอายุของเครื่องสำรองไฟน้อยลงก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่า การปล่อยให้แบต UPS เหลือน้อยจะยิ่งทำให้มีการเสื่อมสภาพเร็วยิ่งกว่า ดังนั้นคุณควรนำแบตออกมาชาร์จทุกๆ 3-4 เดือน และหมั่นตรวจสอบ Battery Cycle Monitor เป็นประจำ เพื่อคอยเปลี่ยนแบตให้มีสภาพที่พร้อมใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ใช้ประจุไฟฟ้าไม่เหมาะสมเมื่อชาร์จแบต UPS
เครื่องสำรองไฟแต่ละรุ่น จะระบุแรงดันที่สามารถรับได้และเหมาะสม ซึ่งการชาร์จด้วยประจุไฟฟ้าที่ต่ำเกินไปจะทำให้แบตเตอรี่เกิดผลึกและแข็งตัวได้ ในขณะที่การชาร์จไฟฟ้าที่สูงเกินก็จะทำให้ให้เกิดก๊าซไฮโดรเจนและออกซิเจน จนส่งผลให้แบต UPS มีความแห้งจนระเบิด ไหม้ และเสื่อมสภาพ ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป
ตัวกรองอากาศสกปรก
ความสกปรก เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แบต UPS เสื่อมลง เพราะเมื่อตัวกรองมีสิ่งสกปรกหรือฝุ่นเกาะอยู่ จะทำให้เครื่องมีการระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลต่อความร้อนที่เพิ่มขึ้น และเสื่อมประสิทธิภาพได้ในที่สุด
วิธีเช็กสภาพแบต UPS
Load Testing เป็นวิธีการตรวจสอบสภาพของแบต UPS ที่ได้รับความนิยมและดีที่สุด โดยคุณสามารถอ่านความจุและระยะเวลาการใช้งานที่เหลือได้อย่างง่ายดายบนหน้าจอแสดงผล หรือใช้วิธีการจดบันทึก เมื่อพลังงานในตัวเครื่อง UPS ถึงจุดสูงสุดหมดรอบการใช้งาน โดยควรทำการทดสอบดังกล่าวในทุก 6 เดือน เพื่อสังเกตระยะเวลาการใช้งานที่ลดลงนั่นเอง
วิธีเปลี่ยนแบต UPS
การเปลี่ยนแบตเครื่องสำรองไฟ สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ทำตามขั้นตอน 7 ขั้นตอนดังนี้
- ปิดเครื่องสำรองไฟฟ้าและถอดปลั๊กออก เพื่อตัดกระแสไฟฟ้า
- นำแบต UPS เก่าออก โดยการเลื่อนฝาบริเวณฐานเครื่อง หรือไขนอตบริเวณฐาน เพื่อแกะเครื่องสำรองไฟ
- ถอดสายไฟทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับแบตเตอรี่
- คุณอาจจำเป็นต้องไขนอตออก เพื่อแกะแบต UPS ออกจากเครื่องสำรองไฟ
- ใส่แบต UPS ใหม่เข้าไป
- เสียบสายที่เชื่อมต่อกลับเข้าไปยังแบตเตอรี่ให้ถูกต้อง
- ไขนอตเพื่อยึดแบตเตอรี่ สำหรับบางรุ่น
- ดันฝาเครื่องกลับเข้าที่เดิมหรือปิดฝาแล้วไขนอตให้แน่น
- เปิดเครื่องสำรองไฟฟ้า เพื่อทดสอบประสิทธิภาพและใช้งาน
เคล็ดลับดูแลและยืดอายุแบต UPS
การดูแลแบต UPS อย่างถูกต้องจะทำให้คุณสามารถใช้งานแบตเตอรี่สำรองไฟฟ้าได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น และนี่คือเคล็ดลับ วิธีการยืดอายุที่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
- ปิดเครื่องทุกครั้ง หลังการใช้งานเครื่องสำรองไฟ้า
- ตั้งเครื่องไว้ในบริเวณที่มีอุณหภูมิเหมาะสม อากาศถ่ายเท ไม่อับชื้น และไม่สกปรก
- ป้องกันไม่ให้มีสัตว์ต่างๆ มากัดหรือแทะ
- เชื่อมต่อเครื่องและอุปกรณ์ของคุณอย่างถูกต้อง มิเช่นนั้นหากเกิดไฟฟ้าขัดข้อง อุปกรณ์จะดับในทันที
- ใช้เครื่องสำรองไฟฟ้ากับอุปกรณ์ที่ไม่กินไฟ และหลีกเลี่ยงการนำไปใช้กับอุปกรณ์ทำความร้อนต่างๆ
- ตรวจสอบแบตเตอรี่เป็นประจำ ว่ามีอายุการใช้งานมากน้อยแค่ไหน หรือแบต UPS เสื่อมสภาพลงเท่าใด
วิธีเลือกซื้อแบต UPS
นอกจากการเลือกซื้อแบต UPS ที่ได้มาตรฐานแล้ว อีกหนึ่งเคล็ดลับทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นคือ การอ้างอิงข้อมูลจากแบตเดิม เพื่อป้องกันการขัดข้องและระยะเวลาที่น้อยลงไป ซึ่งเมื่อถอดแบตเตอรี่ตัวเดิมออก คุณจะเห็นทั้งข้อมูลยี่ห้อแบตเตอรี่ รุ่น ความจุ และค่าแรงดันไฟฟ้า ทำให้สามารถเลือกซื้อเครื่องสำรองไฟฟ้า ที่มีความปลอดภัยจาก Chuphotic ได้สะดวกมากขึ้น
แบตเตอรี่สำรองไฟ หรือ แบต UPS คือ ส่วนหนึ่งของเครื่องสำรองไฟฟ้าที่มีหน้าที่ในการกักเก็บพลังงานไฟฟ้า เพื่อให้อุปกรณ์ของคุณสามารถใช้งานได้เมื่อเกิดไฟฟ้าขัดข้อง โดยหากแบต UPS เสื่อมสภาพ คุณสามารถสังเกตจากอาการที่แปลกได้ เช่น เครื่องส่งเสียงร้องและดับลงเอง มีข้อความเตือนปรากฏ และเครื่องไม่ตอบสนอง ซึ่งเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน ทั้งอุณหภูมิ การใช้งาน หรือสิ่งสกปรก ทำให้คุณจำเป็นต้องมีการตรวจสอบ เปลี่ยน และดูแลแบตเตอรี่เป็นประจำ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น และคงประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องสำรองไฟฟ้า
และหากคุณต้องการแบต UPS และเครื่องสำรองไฟฟ้า สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ Chuphotic เพราะที่นี่มีสินค้ามากมายที่ราคาคุ้มค่า ได้มาตรฐาน คุณภาพดีเยี่ยม และปลอดภัยต่อการใช้งาน