11 วิธีประหยัดไฟฟ้าง่ายๆ ที่บ้าน พร้อมเทคนิคช่วยลดค่าไฟในระยะยาว
Key Takeaway
|
แม้เศรษฐกิจในช่วงนี้จะไม่ค่อยดีเท่าที่ควร แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้คือการใช้ไฟฟ้า เพราะชีวิตประจำวันของเราต้องอาศัยไฟฟ้าในการทำงานและใช้ชีวิตอยู่เสมอ เมื่อค่าไฟแพงขึ้น วิธีประหยัดไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างและเลือกใช้เทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงาน ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายในบิลไฟฟ้าได้อย่างเห็นผลแล้ว
มาตรการลดค่าไฟฟ้าล่าสุด ช่วยบรรเทาค่าไฟฟ้าอย่างไร
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวงได้ลดค่าไฟฟ้า 19.05 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน พร้อมทั้งลดค่า Ft สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2567 ตามมาตรการล่าสุดจากคณะรัฐมนตรี เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน
รวม 11 วิธีประหยัดไฟฟ้า ช่วยลดการใช้พลังงานที่บ้าน
นอกจากมาตรการลดค่าไฟล่าสุดที่รัฐบาลได้ออกมาแล้ว เรายังสามารถประหยัดไฟฟ้าได้ด้วยวิธีที่ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน ซึ่งจะช่วยลดค่าไฟในระยะยาวโดยไม่ต้องรอให้มีนโยบายจากภาครัฐช่วยเหลือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าและเลือกใช้เทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงาน ดังนี้
1. ใช้เครื่องไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 แสดงข้อมูลเกี่ยวกับระดับการใช้ไฟฟ้าและประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงค่าใช้จ่ายต่อปี เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เหมาะสมและเป็นวิธีประหยัดค่าไฟในระยะยาว
2. วิธีลดค่าไฟ โดยเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED
หลอดไฟ LED เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าที่ดี เพราะให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไฟธรรมดาในขณะที่ใช้พลังงานน้อยกว่า และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยจากรังสี UV หรือสารตะกั่วที่พบในหลอดไฟธรรมดาทั่วไป
3. เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส
การตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 26 องศาเซลเซียสจะทำให้ห้องเย็นสบาย ซึ่งวิธีนี้ช่วยลดค่าไฟได้มากกว่าการตั้งอุณหภูมิที่ต่ำกว่านี้ นอกจากนี้ การปิดเครื่องปรับอากาศเร็วขึ้น 1 ชั่วโมงก่อนออกจากห้องก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้เช่นกัน
4. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้
หลายคนมักกดปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วทิ้งปลั๊กไว้ โดยไม่รู้ว่าแม้จะปิดสวิตช์แล้ว แต่กระแสไฟฟ้ายังคงไหลผ่าน ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น นอกจากจะทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรได้
ตัวอย่างเช่น การเสียบชาร์จโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้แม้แบตเตอรี่เต็มแล้ว ก็ยังทำให้กินไฟและเสี่ยงอันตราย ดังนั้น วิธีการประหยัดไฟฟ้าง่ายๆ และเพิ่มความปลอดภัย จึงควรถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน
5. ประหยัดค่าไฟ ด้วยวิธีจัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบ
ใครที่ชอบสะสมของกินไว้ในตู้เย็น แต่ลืมทิ้งให้เน่าเสียคาตู้เย็น จะยิ่งทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก พฤติกรรมนี้นอกจากจะทำให้บิลค่าไฟพุ่งสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้ตู้เย็นสกปรกและเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรีย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ง่ายๆ ทุกบ้านจึงควรหมั่นจัดระเบียบตู้เย็นเสมอ เพื่อให้หยิบจับของในตู้เย็นได้ง่าย ไม่ต้องเปิดทิ้งไว้นานๆ เพื่อหาของ วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าไฟ แต่ยังเพิ่มพื้นที่ว่างและทำให้ตู้เย็นทำความเย็นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
6. เปิดตู้เย็นแต่พอจำเป็น
นอกจากการจัดระเบียบตู้เย็นให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้ตู้เย็นทำงานหนัก การไม่เปิดตู้เย็นบ่อยๆ ก็เป็นวิธีช่วยประหยัดไฟฟ้าได้เช่นกัน เพราะการเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยเกินไปจะทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้นหลายเท่า ส่งผลให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นได้
7. ไม่นำเครื่องใช้ไฟฟ้าร้อนๆ ไว้ในห้องแอร์
การวางหรือเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เช่น ไมโครเวฟ กระติกน้ำร้อน เตาปิ้งย่าง หรือเตารีด ในห้องที่เปิดแอร์ จะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นเพื่อปรับอุณหภูมิให้เย็นลง และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนก็ต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการสร้างความร้อน ทำให้เปลืองไฟหลายเท่า วิธีประหยัดไฟฟ้าง่ายๆ คือควรนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ไปไว้ภายนอกห้องแอร์ เพื่อประหยัดไฟนั่นเอง
8. ซักผ้าและรีดผ้าทีละหลายชิ้น
ATS จะสลับไฟเมื่อแหล่งจ่ายไฟหลักเกิดปัญหา เช่น ไฟฟ้าดับหรือไฟกระชาก โดยช่วยให้การจ่ายไฟฟ้าต่อเนื่องโดยไม่เกิดการหยุดชะงัก ปัจจุบัน ATS ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในโรงงานอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์ โรงพยาบาล เรือนจำ แผนกดับเพลิง องค์กรป้องกันประเทศ และหน่วยงานตำรวจ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินและความปลอดภัยของชีวิตในภายหลัง
9. วิธีประหยัดไฟฟ้า ด้วยการเปิดหน้าต่างรับลมธรรมชาติ
สำหรับคนที่ชอบอากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่ขาดแอร์ไม่ได้ แต่อยากประหยัดค่าไฟ แนะนำให้เปิดแอร์ร่วมกับพัดลม วิธีนี้ช่วยให้รู้สึกเย็นสบายโดยไม่ต้องปรับอุณหภูมิแอร์ให้ต่ำลงมาก ควรตั้งแอร์ที่อุณหภูมิ 27 – 30 องศาเซลเซียส และใช้พัดลมเป่าเข้าหาตัว จะช่วยลดค่าไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
10. เลือกมุมทำงานแค่มุมเดียว
การเลือกมุมทำงานเพียงมุมเดียวเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ดี เพราะสามารถควบคุมการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้ง่าย ลดความเสี่ยงที่จะลืมปิดหรือถอดปลั๊กอุปกรณ์ นอกจากนี้ ควรกำหนดเวลาใช้งานไฟฟ้าให้ชัดเจน โดยเฉพาะสำหรับคนที่ทำงานที่บ้าน
ตัวอย่างเช่น เริ่มงานเวลา 9 โมงเช้า เริ่มเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็น และหยุดทำงานเวลา 5 โมงเย็น แล้วปิดอุปกรณ์และถอดปลั๊กทั้งหมด โดยการตั้งเวลาที่ชัดเจนไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดไฟฟ้า แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าและสร้างวินัยในการทำงาน รวมถึงช่วยให้พักผ่อนได้ตรงเวลาโดยไม่ต้องทำงานเกินเวลาที่กำหนดด้วย
11. ลดค่าไฟ ด้วยวิธีติดตั้งโซลาร์เซลล์
การติดตั้งโซลาร์เซลล์เป็นวิธีลดค่าไฟที่มีประสิทธิภาพ โดยแผงโซลาร์เซลล์จะเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า นับเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า สามารถช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิลได้ถึง 40% เช่น หากค่าไฟปกติอยู่ที่ 3,000 บาท อาจลดเหลือเพียง 1,800 บาท นอกจากนี้ยังเป็นพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนอีกด้วย
สรุป
ค่าไฟในปัจจุบันมีนโยบายลดเป็นช่วงตลอดทั้งปี แต่เราสามารถลดค่าไฟด้วยตัวเองได้ตามวิธีประหยัดไฟฟ้าต่างๆ เช่น ปิดปลั๊กไฟเมื่อไม่ใช้งาน ซักรีดทีละมากๆ เปิดแอร์ร่วมกับพัดลมที่อุณหภูมิ 27 – 30 องศาเซลเซียส และติดตั้งโซลาร์เซลล์ เป็นต้น
Chuphotic มี Solar Cell Inverter จำหน่าย สำหรับผู้ที่ต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อช่วยลดค่าไฟในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย