วิธีเลือกปลั๊กพ่วง ปลั๊กไฟ เพื่อความปลอดภัย และเหมาะสมกับการใช้งาน
หลายคนอาจคิดว่าปลั๊กพ่วง หรือปลั๊กไฟแบบไหนก็เหมือนกัน เพราะมีหน้าที่เป็นเพียงตัวเชื่อมให้กระแสไฟหลักผ่านเข้าสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้วปลั๊กแต่ละชนิดถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกปลั๊กพ่วง ปลั๊กไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่เหมาะสมกับการใช้งาน จึงอาจก่อให้เกิดอันตรายกว่าที่คิด เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร ปลั๊กไฟระเบิด จนถึงขั้นเกิดเพลิงไหม้ได้ บทความนี้ จึงอยากพาไปดูวิธีเลือกปลั๊กพ่วงที่ถูกต้อง รวมถึงวิธีสังเกตว่าปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานดูยังไง ตามไปดูกันเลย
ปลั๊กพ่วง ปลั๊กไฟ คืออะไร
ปลั๊กพ่วง หรือปลั๊กไฟ คือ อุปกรณ์เชื่อมต่อ และกระจายไฟฟ้าที่มีลักษณะเป็นเต้ารับหลายช่องรวมอยู่ในรางเดียวกัน ซึ่งสามารถนำอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชิ้นมาเสียบใช้งานพร้อมกันได้ โดยปลายด้านหนึ่งจะมีสายไฟไว้เชื่อมต่อกับเต้ารับหลักภายในบ้านอีกที เพื่อนำกระแสไฟหลักมากระจาย และส่งต่อไปยังอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน ห้องพัก หรืออาคาร
ความสำคัญของการเลือกปลั๊กพ่วง
ปลั๊กพ่วงเป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า จึงต้องเลือกซื้อด้วยความรอบคอบเป็นพิเศษ เพราะปัญหาเพลิงไหม้หลายครั้งก็เกิดจากการใช้ปลั๊กพ่วงที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งไม่เพียงก่อให้เกิดความเสียหายต่อตนเอง แต่ยังอาจลามไปถึงที่พักอาศัย หรือบ้านที่อยู่รอบข้างด้วย บางคนเห็นของถูกก็รีบซื้อ จนลืมคิดไปว่าคุณภาพก็เป็นไปตามราคา ซึ่งไม่คุ้มเลยกับการที่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ดังนั้น วิธีเลือกปลั๊กพ่วงที่ดีที่สุด คือการเลือกซื้อปลั๊กพ่วงที่ได้มาตรฐาน ซื้อจากร้าน หรือแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ประเภทของปลั๊กพ่วง ปลั๊กไฟ
ปลั๊กพ่วงที่วางขายทั่วไปอาจมีรูปร่างคล้ายกัน หลายคนที่ยังไม่รู้วิธีเลือกปลั๊กพ่วงจึงแยกไม่ค่อยออก แต่ปลั๊กเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานคนละประเภท และมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน โดยปัจจุบันที่นิยมใช้มีอยู่ 5 ชนิด ดังนี้
ปลั๊กพ่วง แบบ 3 ขา
ปลั๊กพ่วงแบบ 3 ขา หรือที่หลายคุ้นหูกันในชื่อของปลั๊ก 3 ตา เป็นที่นิยมใช้ทั่วไป เพราะเต้ารับหลักของบ้านมักเป็นแบบ 2 ขา ในขณะที่อุปกรณ์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดมาพร้อมหัวปลั๊กแบบ 3 ขา จึงต้องมีปลั๊กพ่วงเป็นตัวแปลง ส่วนมากจะรองรับกำลังไฟที่ประมาณ 500-1000 วัตต์
ปลั๊กพ่วง แบบล้อเก็บสายไฟ
ปลั๊กพ่วงแบบมีล้อเก็บสายไฟ มักมีลักษณะเป็นทรงกลม และมีแกนตรงกลางไว้ม้วนเก็บสายไฟ ส่วนด้านหน้าของปลั๊กมีเต้ารับ 2-4 จุด อาจเป็นแบบ 2 ขา หรือ 3 ขาก็ได้ รองรับกำลังไฟได้สูงมากถึง 2,500-3,500 วัตต์ ปลั๊กพ่วงชนิดนี้มักมีสายไฟที่ยาวมาก และก่อนใช้งานก็ควรดึงสายออกมาทั้งหมดก่อนเพื่อความปลอดภัย จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในระยะไกล หรือจุดที่อยู่ห่างจากเต้ารับหลักมากๆ ซึ่งช่วยให้การจัดเก็บสายไฟเป็นระเบียบเรียบร้อย และขนย้ายได้สะดวก
ปลั๊กพ่วง แบบบล็อกสนามยาง
ปลั๊กพ่วงแบบบล็อกสนามยาง มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ด้านนอกหุ้มด้วยยาง จึงช่วยกันกระแทกได้ดี และยึดเกาะกับพื้นได้ดีอีกด้วย อีกทั้งยังมีความแข็งแรง และทนทานมาก จึงเหมาะสำหรับงานช่าง งานกลางแจ้ง หรืองานสวน ส่วนมากปลั๊กพ่วงชนิดนี้มักมีขนาดกะทัดรัดประมาณ 2-4 ช่อง เพื่อให้เหมาะกับการพกพา เคลื่อนย้ายได้สะดวก แต่เป็นปลั๊กพ่วงที่รองรับกำลังไฟได้สูงถึง 3,500 วัตต์
ปลั๊กพ่วง แบบกรองไฟ
ปลั๊กพ่วงแบบกรองไฟ มักมีขนาดใหญ่ และหนากว่าปลั๊กพ่วงทั่วไป อีกทั้งราคาก็สูงกว่าด้วย เพราะมาพร้อมฟังก์ชันพิเศษ คือ ตัวช่วยกรองสัญญาณภาพ และเสียง เพื่อไม่ให้มีคลื่นแทรกรบกวน รวมถึงระบบป้องกันไฟกระชาก ที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเครื่องใช้ไฟฟ้า จึงเหมาะสำหรับใช้กับอุปกรณ์ประเภทเครื่องเสียง โฮมเธียเตอร์ โทรทัศน์ ฯลฯ พร้อมรองรับกำลังไฟได้สูงถึง 3,500 วัตต์
ปลั๊กพ่วง แบบป้องกันไฟกระชาก
ปลั๊กพ่วงแบบป้องกันไฟกระชาก มีหน้าตาเหมือนปลั๊กพ่วงทั่วไป และใช้ได้กับเครื่องไฟฟ้าทุกชนิดเหมือนกัน เช่น โทรทัศน์ เครื่องเสียง คอมพิวเตอร์ ฯลฯ แต่ความพิเศษที่เพิ่มมา คือ มีระบบป้องกันไฟกระชาก หรือ MOV (Metal Oxide Varistor) ช่วยป้องกันความเสียหายของเครื่องใช้ไฟฟ้าในขณะที่แรงดันไฟฟ้าไม่เสถียร เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง สายไฟชำรุด หม้อแปลงระเบิด แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อด้วย นอกจากนี้ วิธีเลือกปลั๊กพ่วงควรสังเกตด้วยว่ามีการติดตั้งสายดินหรือไม่ เพราะลำพังตัว MOV สามารถรับกระแสไฟที่สูงเกินได้ประมาณหนึ่งเท่านั้น หากมีสายดินช่วย กระแสไฟก็จะถูกส่งต่อไปลงดิน แต่หากไม่มี ปลั๊กพ่วงก็อาจชำรุด หรือเกิดอันตรายได้ง่าย
ข้อควรรู้ก่อนซื้อปลั๊กพ่วง หรือปลั๊กไฟ
การเลือกซื้อปลั๊กพ่วง หรือปลั๊กไฟ อาจเลือกจากดีไซน์ภายนอก ความสวยงาม หรือราคาที่ถูกเท่านั้นไม่ได้ แต่ต้องคำนึงถึงคุณภาพ ความเหมาะสม จุดประสงค์ในการงาน รวมถึงความปลอดภัยด้วย สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าต้องเลือกปลั๊กพ่วงแบบไหน ให้พิจารณาจากองค์ประกอบต่างๆ ดังนี้
มาตรฐานความปลอดภัย
วิธีเลือกปลั๊กพ่วงแบบง่ายที่สุด และมั่นใจได้ว่าใช้งานปลอดภัยหายห่วง ให้สังเกตจากสัญลักษณ์มาตรฐานมอก. และระบบความปลอดภัยเสริม เช่น ปลั๊กไฟ Chuphotic 4 ช่อง ยาว 3 เมตร รุ่นนี้มีสัญลักษณ์
มอก.2432-2555 แสดงชัดเจน อีกทั้งยังมีระบบเบรกเกอร์ช่วยตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อใช้ไฟมากเกิน มีไฟ LED บอกสถานะการทำงาน ช่วยป้องกันการลืมปิดสวิตช์ มีม่านนิรภัยช่วยป้องกันเด็กเอานิ้วแหย่รูปลั๊ก วัสดุที่ใช้ก็เป็นพลาสติกคุณภาพดี ไม่ติดไฟ และยังมีการรับประกันนานถึง 3 ปีเต็ม
ชนิดของอุปกรณ์ที่ใช้งาน
เนื่องจากปลั๊กพ่วงมีหลายชนิด และแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติ หรือฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังรองรับกำลังไฟไม่เท่ากันด้วย ดังนั้น วิธีเลือกปลั๊กพ่วงจึงควรพิจารณาให้ดีว่าต้องการใช้กับอุปกรณ์ประเภทไหน จึงจะทำให้เลือกปลั๊กพ่วงได้ง่ายขึ้น และนำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการ ไม่เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์
ความยาว ขนาด และรูปร่าง
ปลั๊กพ่วงแต่ละอันมีการระบุความยาวของสายไฟเอาไว้ เช่น 3 เมตร หรือ 5 เมตร ยิ่งยาวมากก็ยิ่งมีราคาแพง หากไม่จำเป็นก็เปลืองเงินเปล่า และยังเกะกะด้วย วิธีเลือกปลั๊กพ่วงให้เหมาะสมจึงแนะนำว่าควรวัดระยะห่างระหว่างจุดที่ต้องใช้งานกับเต้ารับหลักของบ้านไว้ก่อน จะได้เลือกความยาวให้พอดี ไม่ตึง หรือเหลือเยอะเกินไป นอกจากนี้ การเลือกสายไฟของปลั๊กพ่วงควรมีความหนา และแข็งแรง เพราะสายไฟที่มีขนาดใหญ่จะรองรับกระแสไฟได้สูงกว่าสายไฟขนาดเล็ก อย่างน้อยก็ควรอยู่ที่ 0.824 ตารางมิลลิเมตร หรือเท่ากับสายไฟเบอร์ 18 AWG ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานพร้อมกันหลายอุปกรณ์
จำนวนเต้าเสียบ และช่อง USB
วิธีเลือกปลั๊กพ่วง ควรดูจำนวนเต้าเสียบให้เพียงพอกับการใช้งาน และหากใครใช้ชาร์จอุปกรณ์เสริมจำพวกสมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ตด้วย ก็ควรเลือกแบบที่มีช่อง USB เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น เช่น ปลั๊กไฟ Chuphotic with USB ยาว 3 เมตร และ 5 เมตร รุ่นนี้มีเต้ารับถึง 3 ช่อง เสียบได้ทั้งขากลม และขาแบน อีกทั้งยังมีช่อง USB ทั้ง Type A และ Type C ทำให้สามารถเลือกใช้งานได้หลากหลาย จ่ายไฟได้อย่างทั่วถึง เพราะรองรับกระแสไฟฟ้าได้สูงถึง 2,300 วัตต์
ระบบการป้องกันไฟกระชาก
ไฟกระชากเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้บ่อย ทั้งจากสภาพอากาศ เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือความเสียหายของระบบไฟฟ้า เช่น สายไฟชำรุด การใช้ไฟเกิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังทำงานอยู่ ดังนั้น ปลั๊กพ่วงที่มีระบบป้องกันไฟกระชาก จึงไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้อีกด้วย
วิธีการเลือกปลั๊กพ่วง ปลั๊กไฟ
ได้เคล็ดลับในการเลือกปลั๊กพ่วง หรือปลั๊กไฟกันไปแล้ว แต่หลายคนอาจยังกังวลเรื่องความปลอดภัยอยู่ เพราะไม่รู้ว่าปลั๊กไฟมาตรฐานดูยังไง หากอยากได้ปลั๊กพ่วงที่ใช้งานได้แบบอุ่นใจ ปลอดภัย ประสิทธิภาพดี ใช้งานได้นาน คุ้มค่า คุ้มราคา ต้องดูให้ละเอียดไปถึงเรื่องของมาตรฐานการผลิตด้วย โดยมีวิธีสังเกตง่ายๆ ดังนี้
เลือกปลั๊กพ่วง ต้องมีเครื่องหมาย มอก. เสมอ
มอก. ย่อมาจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตรฐานบ่งชี้ว่าปลั๊กพ่วงนี้มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัยต่อการใช้งาน วิธีเลือกปลั๊กพ่วงที่มีคุณภาพ จึงให้สังเกตสัญลักษณ์ “มอก.2432-2555” ที่ติดไว้ชัดเจนบนผลิตภัณฑ์ และต้องเป็นเลขนี้เท่านั้น เพราะเป็นเครื่องหมายที่ครอบคลุมคุณภาพของปลั๊กพ่วงทั้งชุด หากเป็นสัญลักษณ์มอก. แล้วตามด้วยเลขอื่น อาจเป็นเพียงมอก. เฉพาะส่วนของสวิตช์ สายไฟ เต้าเสียบ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของปลั๊กพ่วง ซึ่งคนที่ไม่รู้ก็อาจทำให้เข้าใจผิดได้
เลือกปลั๊กพ่วง สายไฟต้องได้มาตรฐาน มอก.
อีกหนึ่งจุดที่ต้องสังเกตก่อนเลือกปลั๊กพ่วง คือ มาตรฐานมอก. ของสายไฟ ซึ่งเป็นคนละส่วนกันกับมอก. ของปลั๊กพ่วง ดังนั้น จึงต้องมีมอก. ทั้ง 2 แบบ โดยสังเกตได้จากสัญลักษณ์ “มอก. 11-2553” ที่เป็นเครื่องยืนยันว่าสายไฟที่มากับปลั๊กพ่วงชุดนี้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด และอย่าลืมสังเกตความแข็งแรงของวัสดุหุ้มสายไฟตลอดจนจุดที่ชำรุดเสียหายของสายไฟด้วย
เลือกปลั๊กพ่วง ต้องสังเกตเต้ารับ
..เต้ารับเองก็มีมาตรฐานมอก. เหมือนกัน สังเกตได้จากเครื่องหมาย “มอก.166-2549” อย่างไรก็ตามแต่ละยี่ห้อก็มีคุณภาพแตกต่างกัน ดังนั้น วิธีเลือกปลั๊กพ่วงให้ใช้งานได้ดีในระยะยาว แนะนำให้เลือกแบบที่ขาของเต้ารับทำจากทองเหลือง หรือทองแดง เพราะมีคุณสมบัตินำไฟฟ้าได้ดีกว่าโลหะชนิดอื่น และเพื่อความปลอดภัยก็ควรเลือกเต้ารับแบบขากลมที่มี 3 ขา ซึ่งหมายถึงมีสายดินมาให้ด้วย โดยสายดินจะช่วยป้องกันไฟดูดในกรณีที่เกิดไฟรั่ว หรือไฟฟ้าลัดวงจร ที่สำคัญต้องสังเกตว่ามีสายดินมาจริงหรือไม่ เพราะปลั๊กพ่วงที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีการทำรูสายดินหลอก แต่ไม่มีสายดินอยู่จริง
เลือกปลั๊กพ่วงที่มีหัวปลั๊ก หรือโคนหุ้มฉนวนกันไฟ
ตามมาตรฐานมอก. หัวปลั๊กพ่วง ควรมีลักษณะเป็นขากลม มีฉนวนกันไฟหุ้มที่บริเวณโคนปลั๊ก เพื่อป้องกันไม่ให้มือไปสัมผัสโดนขาปลั๊กเวลาดึงเข้าออก และหัวปลั๊กรวมถึงขาปลั๊กก็ต้องมีความแข็งแรงทนทาน ขาไม่หลวม ไม่หลุด ไม่บิดเบี้ยว หรือมีส่วนไหนชำรุด
เลือกปลั๊กพ่วงที่มีรางปลั๊กไฟเป็นวัสดุกันความร้อน
รางปลั๊กไฟ หรือตัวครอบปลั๊กไฟ ส่วนใหญ่ผลิตจากพลาสติกเหมือนกันหมด แต่พลาสติกก็มีหลายชนิด หลายเกรด วิธีเลือกปลั๊กพ่วงจึงควรสังเกตด้วยว่าเป็นพลาสติกชนิดไหน หากเป็นพลาสติกชนิด ABS, AVC หรือ PC จะมีคุณภาพสูง และแข็งแรงทนทานกว่า PVC อีกทั้งยังทนความร้อนได้ดีกว่า และมีคุณสมบัติไม่ติดไฟ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ได้
เลือกปลั๊กพ่วงที่มีระบบตัดไฟ
เนื่องจากปลั๊กพ่วงมักใช้กับอุปกรณ์หลายชิ้นพร้อมกัน จึงมีโอกาสที่จะเกิดความร้อนสูง หรือใช้ไฟเกินกำหนดได้ วิธีเลือกปลั๊กพ่วงให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย จึงควรมาพร้อมระบบเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) หรือระบบตัดไฟที่จะคอยทำหน้าที่ตัดไฟเมื่อกระแสไฟเกิน ไม่แนะนำให้ใช้ระบบฟิวส์ เพราะต้องเปลี่ยนฟิวส์ใหม่อยู่เป็นประจำ ซึ่งทำให้ยุ่งยากกว่า และหากฟิวส์ใหม่ที่นำมาเปลี่ยนไม่ได้มาตรฐานก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน
เลือกปลั๊กพ่วงโดยคำนึงถึงสวิตช์เปิด-ปิด
ปลั๊กพ่วงบางชนิดไม่มีสวิตช์ บางชนิดมีสวิตช์เปิด-ปิดแบบรวม 1 อัน บางชนิดก็มีสวิตช์ที่เต้ารับทุกช่อง ซึ่งจริงๆ แล้วยิ่งมีสวิตช์หลายอันก็ยิ่งดี เพราะมีความปลอดภัยกว่า ช่วยป้องกันไฟกระชากเวลาเสียบ หรือถอดอุปกรณ์ นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันความร้อนสะสมจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจร และยังช่วยลดการใช้ไฟอย่างสิ้นเปลืองในช่องที่ไม่ได้ใช้งานได้อีกด้วย
ข้อดีของการเลือกปลั๊กพ่วง ปลั๊กไฟที่มีมาตรฐาน
- ใช้งานได้อย่างสะดวก ปลอดภัย
- ทนทาน คุ้มค่า อายุการใช้งานนาน
- ช่วยประหยัดพลังงาน และค่าไฟ
- ช่วยป้องกันความเสียหายของเครื่องใช้ไฟฟ้า
อันตรายหากเลือกใช้ปลั๊กพ่วงที่ไม่ได้มาตรฐาน
- เครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุดเสียหายได้ง่าย
- อาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือเพลิงไหม้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของตนเองและส่วนรวม
ปลั๊กพ่วงเป็นอุปกรณ์ที่มีแทบทุกบ้าน เพราะช่วยอำนวยความสะดวกเวลาต้องการใช้งานอุปกรณ์หลายอย่างพร้อมกัน อีกทั้งยังสามารถเคลื่อนย้ายไปมุมไหนก็ได้ แต่ด้วยความที่หน้าตาของปลั๊กพ่วงดูคล้ายๆ กันไปหมด ในฐานะผู้ซื้อจึงควรศึกษาวิธีเลือกปลั๊กพ่วงเอาไว้ จะได้เลือกซื้อมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงในการเกิดอันตราย หรือง่ายกว่านั้นสามารถเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Chuphotic ได้เลย เพราะมีปลั๊กไฟให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน สินค้าคุณภาพ ผ่านมาตรฐานมอก. ทุกอัน จึงมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ปลั๊กพ่วงที่คุ้มค่า ปลอดภัย ใช้งานได้นาน ในราคาย่อมเยาแน่นอน