เคล็ดไม่ลับ! เลือกเครื่องสํารองไฟคอมพิวเตอร์อย่างไรให้ปลอดภัย คุ้มค่า
Key Takeaway
- เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ (UPS) คืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่สำรองพลังงานไฟฟ้าไว้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไฟตก ไฟกระชาก หรือไฟดับกะทันหัน โดย UPS จะจ่ายกระแสไฟฟ้าที่มีความถี่คงที่อย่างต่อเนื่องให้กับอุปกรณ์ต่างๆ
- เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ Offline or Standby UPS, Line-Interactive UPS และ Online or Double Conversion UPS
- เทคนิคเลือกเครื่องสำรองไฟให้เหมาะกับคอมพิวเตอร์ คือพิจารณาจากอุปกรณ์ที่ใช้งาน ดูขนาดของกำลังไฟในเครื่องใช้ไฟฟ้า เลือกโดยอิงจากสถานที่ที่ใช้งาน เช็กเงื่อนไขการติดตั้งก่อนซื้อ และเลือกร้านที่มีมาตรฐานรองรับ
- ประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ ได้แก่ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องแม้ไฟดับ ปกป้องข้อมูลไม่ให้สูญหาย และยืดอายุการใช้งานของฮาร์ดแวร์
ปัญหาไฟกระชาก ไฟดับ เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายแก่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่อาจเกิดไฟล์สูญหายได้ เพื่อเป็นการปกป้องคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจึงไม่ควรมองข้าม “เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์” ที่ช่วยจ่ายไฟเมื่อแหล่งจ่ายไฟหลักเกิดขัดข้อง บทความนี้จึงจะมาแนะนำเทคนิคเลือกเครื่องสำรองไฟอย่างไรให้คุ้มค่าและยืดอายุการใช้งานคอมพิวเตอร์ได้
ทำความรู้จักกับเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ คืออะไร
เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ หรือ UPS (Uninterruptible Power Supply) คืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่สำรองพลังงานไฟฟ้าไว้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไฟตก ไฟกระชาก หรือไฟดับกะทันหัน โดย UPS จะจ่ายกระแสไฟฟ้าที่มีความถี่คงที่อย่างต่อเนื่องให้กับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ ช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูลหรือฮาร์ดแวร์
การติดตั้ง UPS ช่วยให้การใช้งานคอมพิวเตอร์มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น และยังสามารถใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ได้ เช่น โทรทัศน์ หรือปลั๊กพ่วงสำหรับชาร์จมือถือ เพื่อให้ไม่ต้องกังวลกับปัญหาไฟฟ้าขัดข้องอีกต่อไป
หลักการทำงานของเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้ต้องรู้
เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) เป็นกระแสไฟฟ้าตรง (DC) เพื่อเก็บไว้ในแบตเตอรี่ภายในเครื่อง และเมื่อเกิดปัญหาไฟตก ไฟดับ ไฟกระชาก หรือแรงดันไฟไม่คงที่ ระบบของ UPS จะเปลี่ยนกลับมาเป็นกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) แล้วจ่ายไฟต่อเนื่องให้กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทันที
การทำงานลักษณะนี้ช่วยป้องกันไม่ให้อุปกรณ์สำคัญอย่างคอมพิวเตอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ดับกลางคัน ลดความเสี่ยงของข้อมูลสูญหายหรือความเสียหายที่เกิดจากไฟฟ้าผันผวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ประเภท
เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งประเภทตามรูปแบบการใช้งานและระดับการป้องกันที่แตกต่างกัน โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. Offline or Standby UPS
Offline UPS หรือ Standby UPS เป็นรุ่นพื้นฐานที่สุด ราคาประหยัด และมีขนาดกะทัดรัด ตัวเครื่องจะเริ่มทำงานเมื่อเกิดเหตุไฟดับ โดยจ่ายไฟจากแบตเตอรี่สำรองให้กับอุปกรณ์ทันที อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของ UPS ประเภทนี้คือไม่สามารถป้องกันปัญหาไฟตก ไฟกระชาก หรือแรงดันไฟไม่เสถียรได้ดีนัก จึงเหมาะกับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการการป้องกันระดับสูง
2. Line-Interactive UPS
เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะพัฒนาจาก Offline UPS โดยเพิ่มระบบปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ (Stabilizer) เข้ามาช่วยควบคุมระดับแรงดันให้คงที่แม้ไฟตกหรือไฟเกิน จึงสามารถปกป้องอุปกรณ์จากความเสียหายที่เกิดจากไฟฟ้าผันผวนได้ดียิ่งขึ้น เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการความปลอดภัยมากกว่าแค่กรณีไฟดับ
3. True Online or Double Conversion UPS
True Online UPS หรือ Double Conversion UPS เป็นเครื่องสำรองไฟระดับมืออาชีพ ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการจ่ายไฟอย่างต่อเนื่องและเสถียร ตัวเครื่องจะแปลงกระแสไฟฟ้าตลอดเวลาโดยไม่ขึ้นอยู่กับการเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆ ไม่ว่าไฟจะตก ไฟดับ หรือแรงดันไม่คงที่ UPS ชนิดนี้ก็สามารถรักษาเสถียรภาพของไฟฟ้าได้ตลอดเวลา จึงเหมาะกับอุปกรณ์ที่มีความไวต่อกระแสไฟ เช่น เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือแพทย์ หรือระบบเครือข่ายสำคัญ
เทคนิคเลือกเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ให้เกิดประสิทธิภาพ
การเลือกเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ให้เกิดประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันความเสียหายจากไฟตก ไฟกระชาก และไฟดับได้ หากสงสัยว่าจะเลือกเครื่องสำรองไฟฟ้าคอมพิวเตอร์สักเครื่องต้องเลือกอย่างไร? มีวิธีเลือกดังนี้
พิจารณาจากอุปกรณ์ที่ใช้งาน
เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์แต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ควรดูว่าอุปกรณ์ที่ต้องการต่อเครื่องสำรองไฟเป็นประเภทไหน เช่น อุปกรณ์ในบ้านทั่วไปหรือคอมพิวเตอร์สำนักงาน ควรใช้ Line-Interactive UPS ที่มีระบบปรับแรงดันไฟอัตโนมัติ หรือไม่มั่นใจว่าควรเลือกประเภทไหน แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือของอุปกรณ์ที่ใช้ว่าต้องการพลังงานขนาดไหน และลักษณะไฟฟ้าเป็นแบบไหน เพื่อให้เลือก UPS ได้ตรงความต้องการมากที่สุด
ดูขนาดของกำลังไฟในเครื่องใช้ไฟฟ้า
การรู้ปริมาณโหลดไฟฟ้าที่จะใช้กับ UPS เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้ UPS ทำงานหนักเกินไป ควรใช้ไม่เกิน 80% ของกำลังไฟสูงสุดของ UPS โดยสามารถคำนวณวิธีเลือกขนาด UPS ได้ง่ายๆ ดังนี้
ตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมดที่ต้องการต่อพ่วง
เช็กค่ากำลังไฟฟ้าเป็นวัตต์ (Watt) หรือ VA (Volt-Amps) ของแต่ละอุปกรณ์
รวมค่ากำลังไฟทั้งหมด
นำผลรวม ÷ 0.8 เพื่อเผื่อกำลังไฟ
ตัวอย่าง
รวมอุปกรณ์ได้ 240 วัตต์ → 240 ÷ 0.8 = 300
ดังนั้น ควรเลือก UPS ที่รองรับอย่างน้อย 300 วัตต์ขึ้นไป
เลือกโดยอิงจากสถานที่ที่ใช้งาน
ความเสถียรของไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ส่งผลต่อการเลือกประเภท UPS เช่น พื้นที่ไฟฟ้าไม่เสถียร มีปัญหาไฟตกหรือกระชากบ่อย ควรใช้ Online UPS เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ส่วนพื้นที่ทั่วไปที่ไฟฟ้าค่อนข้างนิ่ง อาจใช้ Line-Interactive UPS ได้อย่างเพียงพอ การเลือกให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมจะช่วยป้องกันปัญหาไฟฟ้าได้ตรงจุดและคุ้มค่าในระยะยาว
เช็กเงื่อนไขการติดตั้งเครื่องสำรองไฟก่อนซื้อ
ก่อนซื้อ UPS ควรตรวจสอบว่ามีบริการติดตั้งจากผู้จำหน่ายหรือไม่ มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือคู่มือที่ชัดเจน พื้นที่สำหรับติดตั้งต้องมีความปลอดภัยและอากาศถ่ายเทได้ดี หากคุณต้องติดตั้งเอง ควรเลือกรุ่นที่มีคู่มือใช้งานชัดเจน และสามารถขอคำปรึกษาจากทีมเทคนิคของบริษัทได้ในกรณีเกิดปัญหา
เลือกร้านที่มีมาตรฐานรองรับ
คุณภาพและความปลอดภัยของ UPS ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของผู้ผลิต ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ผลิตหรือร้านค้ามีมาตรฐานรับรอง เช่น ISO, CE, UL มีการรับประกันที่ครอบคลุม ทั้งตัวเครื่องสำรองไฟฟ้าคอมพิวเตอร์และแบตเตอรี่ มีราคาที่เหมาะสม คุ้มค่า มีบริการหลังการขายและทีมซัปพอร์ตที่ติดต่อได้ง่ายในกรณีเกิดปัญหา การเลือก UPS ที่ได้มาตรฐานจะช่วยลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร และให้ความมั่นใจในระยะยาว
แนะนำการเลือกเครื่องสำรองไฟให้เหมาะกับคอมพิวเตอร์
ในการเลือกซื้อเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์สักเครื่อง เพื่อยืดอายุการใช้งานคอมพิวเตอร์ มีคำแนะนำดังนี้
พิจารณาจากกำลังไฟและขนาดของ UPS
การพิจารณากำลังไฟและขนาดของ UPS เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะต้องเลือกขนาดกำลังไฟของ UPS ให้สูงกว่ากำลังไฟที่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใช้จริง เพื่อป้องกันการโอเวอร์โหลดและให้ UPS สามารถสำรองไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเลือก UPS ที่มีกำลังไฟต่ำเกินไป อาจทำให้อุปกรณ์ดับกะทันหันหรือไม่สามารถสำรองไฟได้ตามต้องการ
ระยะเวลาสำรองไฟ
ระยะเวลาสำรองไฟของ UPS เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะช่วยให้ผู้ใช้มีเวลาบันทึกงานและปิดคอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดไฟดับ ลดความเสี่ยงข้อมูลสูญหายหรืออุปกรณ์เสียหายจากการปิดเครื่องกะทันหัน หากเลือก UPS ที่มีระยะเวลาสำรองไฟเหมาะสม จะสามารถรองรับเหตุการณ์ไฟฟ้าขัดข้องสั้นๆ หรือรอจนระบบไฟฟ้ากลับมาปกติได้ทัน การเลือกระยะเวลาสำรองไฟที่พอดีจึงช่วยให้ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย
ระบบป้องกันไฟกระชาก
ระบบป้องกันไฟกระชากในเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์มีความสำคัญ เพราะช่วยกรองและดูดซับแรงดันไฟฟ้าที่เกินมาตามสายไฟ ซึ่งอาจเกิดจากฟ้าผ่า หรือการจ่ายไฟที่ไม่เสถียร ป้องกันไม่ให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เสียหายหรือเกิดช็อตได้โดยตรง นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง รวมถึงป้องกันข้อมูลสูญหายจากการทำงานผิดพลาดเนื่องจากไฟกระชาก
ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ
ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ ใน UPS เช่น ระบบปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ (AVR) การป้องกันแรงดันไฟฟ้าผิดปกติ ช่องเสียบ USB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อการจัดการและซอฟต์แวร์ควบคุม ช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งาน
ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยป้องกันปัญหาไฟฟ้าอย่างครบวงจร ลดความเสี่ยงต่อความเสียหายของอุปกรณ์ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะ UPS ได้แบบเรียลไทม์ การมีฟีเจอร์เสริมที่เหมาะสมจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของระบบสำรองไฟสำหรับคอมพิวเตอร์ได้ดียิ่งขึ้น
ประโยชน์ที่คุณอาจไม่รู้ของเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์
เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันกลายเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อเราต้องจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการทั้งความแม่นยำและความต่อเนื่อง การมีเครื่องสำรองไฟไว้ใช้งาน ช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาไฟฟ้าและยืดอายุได้ มาดูประโยชน์ที่คุณอาจไม่รู้ของเครื่องสำรองไฟกัน
สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องแม้ไฟดับ
ประโยชน์ของการใช้เครื่องสำรองไฟ คือช่วยให้สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างราบรื่น แม้ในช่วงที่ไฟฟ้าขัดข้องหรือดับกะทันหัน UPS จะจ่ายไฟสำรองให้ระบบยังคงทำงานต่อได้อีกระยะหนึ่ง ช่วยให้คุณมีเวลาเซฟงานและปิดเครื่องอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่งานจะสูญหาย หรือระบบจะเสียหายจากการปิดเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ
ปกป้องข้อมูลไม่ให้สูญหาย
การสูญเสียข้อมูลอาจนำไปสู่ความเสียหายที่คาดไม่ถึง UPS จึงทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ข้อมูลหายจากการดับของเครื่องกะทันหัน หรือไฟตกไฟกระชากที่อาจทำให้การบันทึกข้อมูลไม่สมบูรณ์ รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอย่างฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ได้
ยืดอายุการใช้งานของฮาร์ดแวร์
อีกประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟคือการปกป้องฮาร์ดแวร์จากแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียร เช่น ไฟกระชาก ไฟตก หรือไฟดับที่เกิดขึ้นบ่อยในบางพื้นที่ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เมนบอร์ด พาวเวอร์ซัพพลาย หรืออุปกรณ์สำคัญอื่นๆ เกิดความเสียหายได้ เครื่องสำรองไฟที่มีคุณภาพจะช่วยกรองและปรับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ในระยะยาว
ประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์
ประโยชน์ของการใช้เครื่องสำรองไฟ คือช่วยให้สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างราบรื่น แม้ในช่วงที่ไฟฟ้าขัดข้องหรือดับกะทันหัน UPS จะจ่ายไฟสำรองให้ระบบยังคงทำงานต่อได้อีกระยะหนึ่ง ช่วยให้คุณมีเวลาเซฟงานและปิดเครื่องอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่งานจะสูญหาย หรือระบบจะเสียหายจากการปิดเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ
เลือกแบบไหนดีระหว่าง เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์กับแบตเตอรี่สำรองไฟแบบพกพา
เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ (UPS) และแบตเตอรี่สำรองไฟแบบพกพา (PPS) แม้จะมีหน้าที่คล้ายกัน แต่ก็แตกต่างในด้านการใช้งาน UPS มาพร้อมระบบ ATS ที่จ่ายไฟให้อัตโนมัติเมื่อไฟดับ เหมาะกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการความเสถียร ส่วน PPS พกพาง่าย เหมาะสำหรับใช้งานนอกสถานที่ เช่น แคมป์ปิงหรือเดินทาง จึงควรพิจารณาจากการใช้งานก่อนเลือกใช้
สรุป
เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะหากคุณใช้งานคอมพิวเตอร์เพื่อการทำงานอย่างจริงจัง เพราะช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญ ลดความเสียหายจากไฟดับ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ การเลือกซื้อจากร้านค้าที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้อุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ปลอดภัย ใช้งานได้นานมากขึ้น
หากกำลังมองหาเครื่องสำรองไฟเพื่อปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณ จากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งไฟดับ ไฟกระชาก แนะนำ Chuphotic ผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์คุณภาพ ที่มาพร้อมบริการให้คำปรึกษาทั้งก่อนและหลังการขาย มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยในทุกการใช้งาน
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ วันนี้เรามีคำถามพร้อมคำตอบเพื่อไขข้อสงสัยมาฝากกัน
UPS มีอายุการใช้งานกี่ปี
โดยทั่วไป UPS มีอายุการใช้งานประมาณ 5 – 15 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดและการใช้งาน ส่วนแบตเตอรี่ใน UPS มักมีอายุเฉลี่ย 2 – 3 ปี ซึ่งต้องเปลี่ยนเมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเพื่อรักษาประสิทธิภาพของเครื่อง อายุการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิและความถี่ในการใช้งานแบตเต
เครื่องสำรองไฟอยู่ได้กี่ชั่วโมง?
เครื่องสำรองไฟ (UPS) ขนาด 350 – 500 VA จะสำรองไฟให้คอมพิวเตอร์และจอภาพประมาณ 15 – 30 นาที ขึ้นอยู่กับกำลังไฟที่อุปกรณ์ใช้และชนิดแบตเตอรี่ หากเป็นแบตเตอรี่ชนิด High-Rate อาจสำรองไฟได้นานถึง 25 – 40 นาที แต่ถ้าต้องการระยะเวลาสำรองไฟนานกว่านี้ ต้องเลือก UPS ขนาดใหญ่ขึ้นหรือเพิ่มแบตเตอรี่เสริม
UPS ต้องเสียบปลั๊กไว้ตลอดไหม?
ไม่จำเป็นต้องถอดปลั๊กเครื่องสำรองไฟฟ้าเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพราะในโหมด Stand by อุปกรณ์ใช้พลังงานน้อยมาก อีกทั้งยังช่วยคายประจุเก่าและรับประจุใหม่เข้าสู่ระบบ ซึ่งส่งผลดีต่อการกระตุ้นและยืดอายุการใช้งานของเซลล์แบตเตอรี่อีกด้วย

