ประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟ มีไว้แล้วชัวร์ ไม่ต้องกลัวไฟดับ
ในบ้านเรือนนั้นเต็มไปด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้อาศัย แทบจะเรียกได้ว่าไฟฟ้าคือสิ่งจำเป็นที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะยามกลางคืนที่ต้องอาศัยไฟฟ้าสำหรับให้แสงสว่าง
ดังนั้น เวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉินอย่างไฟฟ้าดับ จึงสร้างความลำบากให้แก่การใช้ชีวิต อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและที่สำคัญคืออาจสร้างผลเสียให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้ เพราะเมื่อไฟฟ้าดับอาจเกิดไฟกระชากหรือทำให้แผงวงจรไฟฟ้าทำงานผิดปกติ
การเตรียมแผนสำรองอย่างเครื่องสำรองไฟไว้ในบ้านจึงเป็นทางแก้ปัญหาที่ดี เพราะประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟคือการทำให้มีแหล่งพลังงานสำรองที่ช่วยให้มีไฟฟ้าสำรองไว้ใช้ในยามที่การจ่ายไฟฟ้าทำงานไม่ปกติ ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากไฟฟ้าดับ อำนวยความสะดวกให้กับการใช้ชีวิตและช่วยถนอมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องด้วย
เครื่องสำรองไฟ คืออะไร
เครื่องสำรองไฟ หรือ UPS (Uninterruptible Power Supply) คือเครื่องที่ช่วยจ่ายพลังงานอย่างต่อเนื่อง ให้การทำงานของไฟฟ้าเป็นไปได้อย่างปกติ แม้ในยามที่ไฟดับหรือการทำงานของไฟฟ้ามีความผันผวน ประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟคือทำให้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้รับผลกระทบจากไฟฟ้ากระชาก จึงช่วยถนอมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ไม่เสี่ยงต่อความเสียหายหรือเกิดการลัดวงจร เพราะมีระบบที่ช่วยปรับแรงดันไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในการใช้งานได้ด้วย
นอกจากนี้ ประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟยังช่วยให้ผู้ที่กำลังใช้งานเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์อย่างคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง งานไม่สูญหายหรือต้องหยุดชะงักเพราะไฟฟ้าดับ
องค์ประกอบของเครื่องสำรองไฟ
เครื่องสำรองไฟมีองค์ประกอบอยู่ด้วยกัน 4 ส่วนหลักๆ ได้แก่
-
- Charger หรือเครื่องประจุแบตเตอรี่ มีหน้าที่ช่วยเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าจาก AC (ไฟฟ้ากระแสสลับ) ให้เป็น DC (ไฟฟ้ากระแสตรง) โดยรับเอากระแสไฟฟ้า AC จากเครื่องจ่ายไฟเข้ามาประจุเป็นกระแสไฟฟ้า DC แล้วเก็บไว้ในแบตเตอรี่
- Inverter หรือ เครื่องแปลงประจุไฟฟ้า มีหน้าที่ช่วยเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าจากกระแสไฟฟ้า DC ให้เป็นกระแสไฟฟ้า AC สำหรับใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
- Battery หรือ แบตเตอรี่ เป็นส่วนที่จัดเก็บกระแสไฟฟ้าสำรองในยามฉุกเฉิน โดยจ่ายกระแสไฟฟ้า DC ให้กับเครื่องแปลงประจุไฟฟ้า หากว่าไม่สามารถรับกระแสไฟฟ้า AC จากแหล่งจ่ายไฟฟ้าได้หรือรับรู้ถึงความผันผวนของวงจรไฟฟ้า
- Stabilizer หรือระบบปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ มีหน้าที่ช่วยปรับแรงดันไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
หลักการทำงานของเครื่องสำรองไฟ
หลักการทำงานของเครื่องสำรองไฟคือ รับเอา AC (ไฟฟ้ากระแสสลับ) มาแปลงให้กลายเป็น DC (ไฟฟ้ากระแสตรง) แล้วเก็บบางส่วนเอาไว้ในแบตเตอรี่เพื่อเป็นพลังงานสำรอง เมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกิดความผิดปกติ ไม่สามารถจ่ายไฟได้หรือเมื่อไฟฟ้าดับ ประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟคือนำเอาไฟฟ้าที่เก็บสำรองไว้ แปลงจาก DC ให้เป็น AC แล้วจ่ายให้เครื่องใช้ไฟฟ้า จึงทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามีไฟฟ้าใช้อย่างต่อเนื่องได้ แม้ในยามที่ไฟดับ
ชนิดของเครื่องสำรองไฟ
เครื่องสำรองไฟฟ้ามีหลายแบบด้วยกัน สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสนใจเกี่ยวกับประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟ อาจยังสับสนว่าควรซื้อแบบไหนดี บทความนี้จะพามาเปรียบเทียบความแตกต่างและข้อดีข้อเสียที่ควรรู้ของเครื่องสำรองไฟฟ้าชนิดต่างๆ
Standard UPS
เครื่องสำรองไฟแบบ Standard UPS หรือ Offline UPS คือเครื่องสำรองไฟที่ในเวลาปกติจะรับเอากระแสไฟฟ้ามาจากแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าอย่างการไฟฟ้าโดยตรงพร้อมๆ ไปกับการเก็บเอากระแสไฟฟ้าสำรองไว้ในประจุแบตเตอรี่ โดยเมื่อไฟฟ้าดับ เครื่องสำรองไฟจะจ่ายไฟให้กับเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่อไป โดยมีการทำงานคือใช้ Transfer Switch หรือเครื่องสับเปลี่ยน เปลี่ยนการจ่ายไฟฟ้าระหว่างระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้าหรือเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า
ซึ่งเมื่อเกิดไฟดับหรือความผิดปกติระยะสั้นอย่างไฟตก เครื่องสับเปลี่ยนอาจสับเปลี่ยนแหล่งพลังงานไฟฟ้าไม่ทันและจ่ายพลังงานไฟฟ้าที่คุณภาพไม่ดีให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ด้วยเช่นกัน
ประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟแบบ Standard UPS จึงเหมาะกับกรณีไฟดับ และมีข้อดีคือราคาที่ถูกกว่าเครื่องสำรองไฟชนิดอื่นๆ แต่ข้อเสียของเครื่องสำรองไฟฟ้าชนิดนี้คือไม่สามารถควบคุมหรือช่วยปรับระดับแรงดันไฟฟ้าได้ ผู้ที่เลือกใช้เครื่องสำรองไฟชนิดนี้ จึงต้องใช้เพื่อสถานการณ์ไฟดับหรือและต้องระมัดระวังเรื่องการจ่ายไฟฟ้าเกินหรือคุณภาพไม่ดีที่อาจส่งผลต่อวงจรไฟฟ้าได้
Line Interactive UPS
เครื่องสำรองไฟแบบ Line Interactive UPS เป็นเครื่องสำรองไฟฟ้าที่คล้ายกันกับเครื่องสำรองไฟฟ้าแบบ Standard UPS แต่มีจุดที่แตกต่างกันคือเมื่อรับกระแสไฟฟ้าจากระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากการไฟฟ้าแล้ว จะมี Stabilizer หรือระบบปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติที่ช่วยรักษาระดับของแรงดันไฟฟ้าในกรณีที่ไฟตกได้
ดังนั้น ประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟแบบ Line Interactive UPS จึงเป็นเรื่องของการรักษาระดับแรงดันไฟฟ้า เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทยที่ไฟฟ้าตกบ่อย มากกว่าการเลือกใช้เครื่องสำรองไฟแบบ Standard UPS ในราคาที่ยังคงไม่แพงมาก แต่ข้อเสียของเครื่องสำรองไฟฟ้าแบบ Line Interactive UPS คือยังไม่สามารถแก้ไขเรื่องของความถี่ได้ จึงยังไม่เหมาะกับการใช้งานเพื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการความละเอียดสูงเช่น เครื่องมือทางการแพทย์ เป็นต้น
Online UPS
เครื่องสำรองไฟแบบ True Online UPS เป็นเครื่องสำรองไฟที่มีศักยภาพสูงที่สุด เพราะมีการทำงานของเครื่องตลอดเวลาไม่ว่าระบบวงจรไฟฟ้าจะอยู่ในสถานะใด จึงสามารถจ่ายไฟให้แก่เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทั้งเวลาที่ไฟดับ ไฟตก หรือแผงวงจรเกิดการทำงานผิดปกติ
ประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟชนิดนี้จึงเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ ข้อดีของเครื่องสำรองไฟแบบ True Online UPS คือสามารถแก้ปัญหาความผิดปกติของไฟฟ้าได้ทุกกรณีและมีความเสถียรสูง ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แต่มีข้อเสียที่ราคาที่สูงกว่าเครื่องสำรองไฟชนิดอื่นๆ มีการออกแบบวางระบบที่ซับซ้อนและน้ำหนักของเครื่องที่มากกว่าชนิดอื่นๆ อีกด้วย
ระยะเวลาในการสำรองไฟ
ระยะเวลาในการสำรองไฟของเครื่องสำรองไฟนั้นขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่ของเครื่องสำรองไฟและการใช้งาน ในการคำนวณระยะเวลาที่ต้องใช้สำรองไฟของเครื่องสำรองไฟ จึงต้องประเมินทั้งปริมาณที่เครื่องสำรองไฟบรรจุได้และจำนวนอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ ตัวอย่าง เช่น แบตเตอรี่ของเครื่องสำรองไฟระบุระยะเวลาในการสำรองไฟ 5-30 นาที หากใช้งานอุปกรณ์เต็มกำลังไฟที่เครื่องสำรองไฟสามารถจ่ายได้ ก็อาจใช้งานไฟสำรองได้ 5 นาที
ประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟ
เมื่อเห็นการทำงานของเครื่องสำรองไฟแล้ว จะเห็นได้ว่าความสำคัญของเครื่องสำรองไฟนั้นเหมาะกับผู้ที่ต้องทำงานกับข้อมูลสำคัญหรือต้องการถนอมการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้อย่างดี โดยประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟคือ
-
- ช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องหรือมีไฟฟ้าเพียงพอต่อการจัดเก็บข้อมูล ก่อนที่ข้อมูลจะสูญหายจากไฟฟ้าดับหรือความขัดข้องของไฟฟ้า
- ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าต่างๆ เมื่อเกิดความผิดปกติของไฟฟ้า เช่น ไฟตก ไฟกระชาก หรือไฟฟ้าลัดวงจร เป็นต้น
- ช่วยปรับระดับแรงดันไฟฟ้าให้เสถียรและอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน ยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า
เหตุผลที่ต้องมีเครื่องสำรองไฟ
ทำไมถึงต้องมีเครื่องสำรองไฟ เหตุผลเพราะช่วยให้มีไฟฟ้าสำรองสำหรับการใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้
- เครื่องสำรองไฟเพื่อป้องกันความเสียหายจากเหตุฉุกเฉิน เช่น ให้ลิฟท์ในคอนโดสามารถทำงานต่อได้เมื่อไฟฟ้าดับ หรือให้เครื่องมือทางการแพทย์สามารถใช้งานต่อได้เมื่อไฟฟ้าผิดปกติ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะอุปกรณ์การทำงานต่างๆ อย่างคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องเก็บข้อมูลสำคัญ จึงเป็นเหตุผลที่ต้องมีเครื่องสำรองไฟ เพราะจะทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในยามที่ไฟฟ้าดับ ให้ผู้ใช้งานได้มีเวลามากเพียงพอที่จะสำรองข้อมูลก่อนเกิดความสูญหาย
- ยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้ามีมูลค่าสูง การช่วยถนอมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยเครื่องสำรองไฟช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามีผลกระทบจากความผิดปกติของไฟฟ้าน้อย
เนื่องจากเครื่องสำรองไฟมีอยู่หลากหลายแบบ การเลือกเครื่องสำรองไฟจึงควรพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้
- ระยะเวลาในการสำรองไฟ เครื่องสำรองไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานนั้นมีการจ่ายไฟและความต้องการไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ผู้ใช้งานจึงควรศึกษาว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการนั้น ใช้งานไฟฟ้าในปริมาณเท่าใดและมีการสำรองไฟฟ้าเพื่ออะไร จึงจะเลือกระยะเวลาในการสำรองไฟได้ เช่น หากต้องการสำรองไฟฟ้าเพื่อจัดเก็บข้อมูลไม่ให้สูญหาย การใช้เครื่องสำรองไฟฟ้าที่มีระยะเวลาการสำรองไฟฟ้า 5 นาทีก็เพียงพอ
- ความรวดเร็วในการจ่ายไฟฟ้าสำรอง เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชนิดอาจต้องการความต่อเนื่องที่ไม่เหมือนกัน เครื่องสำรองไฟเองก็มีความเร็วในการจ่ายไฟที่ไม่เท่ากันด้วยเช่นกัน หากเป็นเครื่องสำรองไฟแบบ Standard UPS จะมีระยะเวลาที่ต้องใช้ในการสับเปลี่ยนจากแหล่งพลังงานหลักมาเป็นแหล่งพลังงานสำรอง จึงอาจไม่เหมาะกับเครื่องมือที่ต้องการความละเอียดสูงอย่างเครื่องมือทางการแพทย์
เครื่องสำรองไฟแบบ Line Interactive UPS มีการสับเปลี่ยนที่รวดเร็วกว่าจึงสามารถใช้กับเครื่องมือที่ต้องการป้องกันเรื่องไฟตกหรือไฟกระชากได้ และเครื่องสำรองไฟแบบ True Online UPS สามารถใช้พลังงานสำรองได้ทันทีจึงมีศักยภาพในเรื่องความรวดเร็วในการจ่ายไฟมากที่สุด - จำนวนเต้ารับ เพราะผู้ใช้งานแต่ละคนอาจไม่ได้มีอุปกรณ์ที่ต้องการไฟฟ้าสำรองเพียงเครื่องเดียว การเลือกเครื่องสำรองไฟฟ้าจากเต้ารับ ช่วยให้เลือกเครื่องสำรองไฟฟ้าให้เพียงพอต่อจำนวนอุปกรณ์ที่มีได้ และช่วยให้คำนวณเรื่องความต้องการปริมาณไฟฟ้าสำรองได้ด้วยเช่นกัน
วิธีการดูแลเครื่องสำรองไฟฟ้าทำได้หลายวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพในการสำรองไฟฟ้าให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ อยู่เสมอ
- ความสะอาด ควรดูแลรักษาความสะอาดให้กับเครื่องสำรองไฟฟ้าโดยใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาดตัวเครื่อง
- ระมัดระวังเรื่องของการระบายอากาศ หลีกเลี่ยงบริเวณที่อาจมีฝุ่นละอองและหมั่นเช็คอุณหภูมิของเครื่องสำรองไฟฟ้า
- ควรมีการทดสอบการทำงานของเครื่องสำรองไฟฟ้าอยู่เสมอ อย่างน้อย 1 ครั้งต่อ 1 เดือน
- ศึกษาคู่มือการใช้งานของเครื่องสำรองไฟฟ้าให้ละเอียดและปฏิบัติตามคำแนะนำเสมอ ระมัดระวังการใช้งานเครื่องสำรองไฟฟ้าเกินขีดจำกัด และหากพบความผิดปกติของเครื่องสำรองไฟฟ้าให้ติดต่อช่างซ่อมเพื่อทำการซ่อมแซม ไม่ควรซ่อมแซมด้วยตนเอง
เครื่องสำรองไฟหรือ UPS เป็นเครื่องมือที่ช่วยสำรองไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า ความสำคัญของเครื่องสำรองไฟคือเพื่อให้สามารถใช้งานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ป้องกันเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไฟฟ้าดับและยังเป็นการถนอมการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ให้ได้รับผลกระทบจากความผิดปกติของการจ่ายไฟด้วย
ดังนั้นจึงควรเลือกเครื่องสำรองไฟฟ้าที่เหมาะสมต่อการใช้งานจากปัจจัยต่างๆ เช่น กำลังไฟและความเร็วในการจ่ายไฟที่เหมาะสมต่อการใช้งานและจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องการใช้ ที่สำคัญคือควรศึกษาการใช้งานเครื่องสำรองไฟฟ้าให้ถี่ถ้วนและดูแลรักษาเครื่องสำรองไฟฟ้าเสมอ เพื่อให้สามารถใช้งานประโยชน์ของเครื่องสำรองไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ