fbpx

11 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุด พร้อมวิธีประหยัดไฟในช่วงหน้าร้อน

  • Home
  • เกร็ดความรู้
  • 11 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุด พร้อมวิธีประหยัดไฟในช่วงหน้าร้อน
11 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุด พร้อมวิธีประหยัดไฟในช่วงหน้าร้อน

11 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุด พร้อมวิธีประหยัดไฟในช่วงหน้าร้อน

หน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้น เครื่องไฟฟ้าจึงทำงานหนัก ทำให้ค่าไฟเพิ่มสูงขึ้น… มาดูสาเหตุกันว่าทำไมช่วงหน้าร้อนค่าไฟถึงแพง มีเครื่องใช้ไฟฟ้าไหนกินไฟมากที่สุด และจะต้องใช้งานอย่างไร เพื่อให้ช่วยประหยัดไฟได้ บทความนี้มีคำตอบ

ทำไมหน้าร้อนถึงค่าไฟแพงขึ้น

ทำไมหน้าร้อนถึงค่าไฟแพงขึ้น

จากการทดสอบของ กฟน. (การไฟฟ้านครหลวง) ได้ยืนยันว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศกินไฟเพิ่มขึ้นถึง 3% ถึงแม้จะตั้งค่าอุณหภูมิเท่าเดิม เพราะเครื่องปรับอากาศจะทำงานหนักขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้พฤติกรรมในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยๆ การเปิดเครื่องปรับอากาศทั้งวัน ก็มีผลทำให้ค่าไฟสูงขึ้นได้เช่นกัน

รวม 11 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดในบ้าน

รวม 11 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กันอยู่ทุกวัน เป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้กับการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าตามบ้านเรือน แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าบางตัวก็กินไฟหนักมาก ทำให้ค่าไฟเพิ่มสูงขึ้นทุกเดือน โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน มาดูว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าไหนที่กินไฟมากที่สุด เพื่อให้ใช้ไฟได้อย่างฉลาดยิ่งขึ้น ดังนี้

1. เครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า

เครื่องทำน้ำอุ่น กินไฟประมาณ 2,500-4,500 วัตต์ ซึ่งค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 10-47 บาท โดยเคล็ดลับในการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นให้ประหยัด คือการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นในขนาดที่เหมาะสม พร้อมต่อสายดินให้เรียบร้อย และปรับอุณหภูมิน้ำให้พอดี ปิดสวิตช์ทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ หากพบรอยรั่วหรือมีปัญหาใดให้รีบแก้ไขทันที ทั้งนี้ให้หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นแบบไม่จำเป็นด้วย

2. เตารีดไฟฟ้า

เตารีดไฟฟ้า กินไฟประมาณ 700-2,000 วัตต์ ซึ่งค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 3-8 บาท โดยเคล็ดลับในการใช้เตารีดไฟฟ้าให้ประหยัด คือควรตรวจสอบการชำรุดของปลั๊กและสายไฟก่อนใช้งานทุกครั้ง ในการรีดผ้าควรปรับความร้อนให้เหมาะสมกับชนิดผ้า ให้เลือกรีดผ้าบางก่อนผ้าหนา และรีดผ้าครั้งละหลายๆ ตัว

3. ไดร์เป่าผม

ไดร์เป่าผม เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟที่สุด แต่หลายคนกลับมองข้าม โดยตัวไดร์เป่าผมกินไฟประมาณ 100-1,000 วัตต์ ซึ่งค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 2-4 บาท สำหรับเคล็ดลับในการใช้ไดร์เป่าผมให้ประหยัด คือควรเช็ดผมให้หมาดก่อนเป่า ซึ่งช่วยให้ผมแห้งไวขึ้นและทำให้กินไฟน้อยลง

4. ไมโครเวฟ

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟที่สุดลำดับต่อมาคือ ไมโครเวฟ ที่ใช้ไฟประมาณ 100-1,000 วัตต์ ซึ่งค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 0.40-4 บาท โดยเคล็ดลับในการใช้ไมโครเวฟให้ประหยัด คือหลีกเลี่ยงการเปิด-ปิดฝาประตูไมโครเวฟบ่อยๆ และไม่ควรเสียบปลั๊กทิ้งไว้ ให้ถอดปลั๊กหลังใช้งานเสร็จทุกครั้ง รวมถึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้งานอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบว่าสายไฟไม่รั่วหรือชำรุดก่อนใช้งาน

5. เครื่องปรับอากาศ

เครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟที่สุดโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟประมาณ 1,200-3,300 วัตต์ ซึ่งค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 5-13 บาท โดยเคล็ดลับในการใช้เครื่องปรับอากาศให้ประหยัดอยู่ที่การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ ควรเลือกให้มีขนาดเหมาะสมกับห้องและมีประสิทธิภาพสูง ติดตั้งในระดับที่สูงพอดี มีบริเวณสำหรับระบายความร้อน และไม่ติดตั้งใกล้วัตถุไวไฟ สิ่งสำคัญคือควรเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อนำไปคำนวณค่าไฟที่เหมาะสมในแต่ละปี

6. เครื่องซักผ้า

เครื่องซักผ้า กินไฟประมาณ 3,000 วัตต์ ซึ่งค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 12 บาท โดยเคล็ดลับในการใช้เครื่องซักผ้าให้ประหยัด ควรใส่เสื้อผ้าในปริมาณที่เหมาะสมกับตัวเครื่อง หากเสื้อผ้ามีแค่ 1-2 ชิ้น ให้เปลี่ยนจากซักเครื่องมาเป็นการซักมือแทน หมั่นตรวจสอบปลั๊กไฟ สายไฟ รวมถึงตัวเครื่องซักผ้าให้อยู่ในสภาพที่ดีเสมอ และถอดปลั๊กทันทีหลังจากใช้งานเสร็จ

7. เครื่องดูดฝุ่น

เครื่องดูดฝุ่น แม้จะไม่จำเป็นต้องใช้งานตลอด แต่ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟที่สุด โดยใช้ไฟประมาณ 750-1,200 วัตต์ ซึ่งค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 3-5 บาท โดยเคล็ดลับในการใช้เครื่องดูดฝุ่นให้ประหยัด ก็คือ หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องดูดฝุ่นถ้าไม่จำเป็น ให้ใช้ไม้กวาดแทน

8. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า

หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ใช้ไฟประมาณ 450-1,500 วัตต์ ซึ่งค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 2-6 บาท โดยเคล็ดลับในการใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าให้ประหยัด คือการเลือกใช้หม้อที่มีขนาดกำลังดีและหุงข้าวให้พอดีในแต่ละมื้อ ให้ถอดปลั๊กออกหลังใช้งานเสร็จ ควรล้างหม้อให้สะอาดหลังใช้งาน หมั่นตรวจสอบแท่นความร้อนในหม้อหุงข้าว รวมถึงสายไฟ และปลั๊กไฟด้วย

9. โทรทัศน์สี

โทรทัศน์สี กินไฟประมาณ 80-180 วัตต์ ซึ่งค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 32-72 สตางค์ โดยเคล็ดลับในการใช้โทรทัศน์สีให้ประหยัด คือการเลือกใช้โทรทัศน์สีที่มีฉลากเบอร์ 5 และไม่ควรเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลา หากใช้งานเสร็จแล้วให้ปิดทุกครั้ง

10. ตู้เย็น

ตู้เย็น กินไฟประมาณ 70-175 วัตต์ ซึ่งค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 28-58 สตางค์ โดยเคล็ดลับในการใช้ตู้เย็นให้ประหยัด คือควรเลือกใช้ตู้เย็นที่มีฉลากเบอร์ 5 อย่าเปิด-ปิดตู้เย็นบ่อย และไม่ควรเปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้นานๆ หลีกเลี่ยงการใส่ของในตู้เย็นเยอะๆ จัดวางตู้เย็นให้ห่างจากผนังประมาณ 15 เซนติเมตร และหากพบว่ายางที่ขอบตู้เย็นชำรุดจนตู้เย็นปิดไม่สนิท ควรรีบเปลี่ยนทันทีเพื่อป้องกันความเย็นรั่วไหล ทำให้กินไฟยิ่งกว่าเดิม

11. พัดลมไฟฟ้า

พัดลมไฟฟ้า กินไฟประมาณ 35-80 วัตต์ ซึ่งค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ชั่วโมงละ 15-25 สตางค์ โดยเคล็ดลับในการใช้พัดลมให้ประหยัด คือควรเลือกใช้พัดลมที่มีฉลากเบอร์ 5 ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ และไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้พัดลมร้อนจากการทำงานหนักได้

5 เคล็ดลับ ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไร ให้ประหยัดไฟในหน้าร้อน

5 เคล็ดลับ ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไร ให้ประหยัดไฟในหน้าร้อน

หน้าร้อนอาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนัก แต่ไม่ว่าจะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป ก็สามารถดูแลรักษาหรือใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างถูกวิธีเพื่อให้ประหยัดไฟได้ ตามเคล็ดลับดังนี้

1. ถอดปลั๊กหลังใช้งานเสร็จ

การเสียบปลั๊กทิ้งไว้ จะทำให้มีกระแสไฟวิ่งอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นควรปิดสวิตช์ และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังใช้งานเสร็จทันที ควรเลือกใช้ปลั๊กไฟที่มีสวิตช์เปิด-ปิด เพื่อป้องกันไฟรั่ว เพื่อให้สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างประหยัด และปลอดภัย

2. วางตู้เย็นกับไมโครเวฟให้ถูกที่

ตู้เย็นและไมโครเวฟ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟ ซึ่งการวางตู้เย็นให้ถูกที่ จะต้องวางให้ห่างจากผนังประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อให้ตู้เย็นนั้น ระบายความร้อนได้ ส่วนการวางไมโครเวฟ ควรวางให้ห่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นๆ และไม่ควรวางไว้ในที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ

3. ทำความสะอาดและจัดระเบียบตู้เย็น

ควรตรวจเช็กอยู่เสมอว่า ของในตู้เย็นอัดแน่นเกินไปหรือไม่ หากพบว่าตู้เย็นมีของแช่เต็มพื้นที่ ก็ให้ทำความสะอาดและจัดระเบียบตู้เย็น เพื่อให้ตัวตู้เย็นไม่ทำงานหนัก มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นและรักษาความเย็นได้ดี ซึ่งถือเป็นการช่วยประหยัดไฟอย่างหนึ่ง

4. เปิดเครื่องปรับอากาศให้ถูกวิธี

อากาศร้อนๆ เครื่องปรับอากาศถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุด ดังนั้นการเปิดเครื่องปรับอากาศให้ถูกวิธี จะช่วยให้เย็นเร็วขึ้นและช่วยให้เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานหนักจนเกินไป ซึ่งจะต้องตั้งอุณหภูมิให้อยู่ที่ประมาณ 26-27 องศาเซลเซียส และเปิดพัดลมช่วย ควรหมั่นล้างเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

5. ใช้พัดลมแทนเครื่องปรับอากาศ

ช่วงหน้าร้อน ทำให้อากาศมีอุณหภูมิสูงขึ้น ส่งผลให้เครื่องไฟฟ้าทำงานหนัก ค่าไฟจึงเพิ่มสูงขึ้น ควรรู้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าไหนที่กินไฟสุด จะได้สามารถดูแลหรือใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นอย่างถูกวิธี เพื่อประหยัดค่าไฟในแต่ละเดือน อย่างเช่น การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟ รวมถึงรู้ถึงข้อควรระวังในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในหน้าร้อนด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเครื่องปรับอากาศให้ถูกวิธี การจัดวางตู้เย็นและไมโครเวฟในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งถือเป็นการช่วยประหยัดได้ และสิ่งสำคัญสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า นั่นก็คือการเลือกใช้ปลั๊กไฟ ควรใช้ปลั๊กไฟที่มีสวิตช์เปิด-ปิดจาก Chuphotic เพื่อป้องกันไฟรั่ว และสามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัยในช่วงหน้าร้อน

สรุป

เครื่องปั่นไฟคืออุปกรณ์ที่ใช้สร้างไฟฟ้า ซึ่งอาจเกิดปัญหาเสียงดังได้จากการสั่นสะเทือนของส่วนประกอบภายในหรือการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง การแก้ไขปัญหาเสียงดังควรเริ่มจากการตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องปั่นไฟอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการใช้เลือกฉนวนเสียงก็จำเป็นเช่นกัน

ซึ่งในการเลือกเครื่องปั่นไฟเสียงเงียบ คุณภาพสูง ควรพิจารณาตามขนาดที่ต้องการซึ่งสอดคล้องกับกำลังไฟฟ้าที่ต้องการผลิต และเลือกตามประเภทเครื่องปั่นไฟที่ตรงกับความต้องการของคุณ นอกจากนี้การเลือกเครื่องปั่นไฟที่มีฟังก์ชันที่ต้องการก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และหากใครที่สนใจ เครื่องปั่นไฟ ทาง Chuphotic ผู้นำในเรื่องเครื่องสำรองไฟที่เป็นมาตรฐานอันดับ 1 ในเอเชียมีทั้งเครื่องปั่นไฟและอุปกรณ์มากมายให้คุณได้เลือกตามความต้องการพร้อมให้บริการเสมอ