โซลาร์ฟาร์ม 1 MW ใช้พื้นที่กี่ไร่? สำรวจอนาคต Solar Farm ในไทย
|

ทำความรู้จัก โซลาร์ฟาร์ม พลังงานสะอาดที่คุ้มค่า
“โซลาร์ฟาร์ม” (Solar Farm) หรือสวนพลังงานแสงอาทิตย์ คือโรงงานผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จำนวนมากเพื่อดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์และแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า เปรียบเสมือนโรงไฟฟ้าประเภทอื่นๆ แต่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า ไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกส่งไปยังระบบไฟฟ้าภูมิภาคหรือสถานที่ที่มีความต้องการไฟฟ้าสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
ธุรกิจโซลาร์ฟาร์มเป็นธุรกิจรักษ์โลกที่กำลังมาแรง มีบทบาทสำคัญในการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการในระดับอุตสาหกรรมและจ่ายไฟให้กับระบบไฟฟ้าสาธารณะ โดยอาศัยพื้นที่กว้างขวางสำหรับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จำนวนมาก โซลาร์ฟาร์มโดดเด่นด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ เช่น ระบบติดตั้งบนผิวน้ำหรือระบบติดตามแสงอาทิตย์ เพื่อการผลิตไฟฟ้าที่ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังช่วยลดการใช้พลังงานจากแหล่งธรรมชาติและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจุบันในประเทศไทยมีโซลาร์ฟาร์มกระจายอยู่ใน 13 จังหวัด รวม 39 แห่ง ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา 9 แห่ง ขอนแก่น 10 แห่ง บุรีรัมย์ 3 แห่ง สุรินทร์ 3 แห่ง นครพนม 3 แห่ง สกลนคร 2 แห่ง ร้อยเอ็ด 2 แห่ง หนองคาย 1 แห่ง และอุดรธานี 1 แห่ง

รูปแบบของโซลาร์ฟาร์ม
โซลาร์ฟาร์มมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งานและการติดตั้ง ดังนี้
1. การติดตั้งโซลาร์ฟาร์มแบบลอยน้ำ (Floating System)
การติดตั้งโซลาร์ฟาร์มแบบลอยน้ำ (Floating System) เป็นการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไว้บนผิวน้ำ ซึ่งการติดตั้งโซลาร์ฟาร์มแบบลอยน้ำ ไม่จำเป็นต้องสูญเสียพื้นที่บนบก หรือบนพื้นดิน อีกทั้งจุดเด่นของการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในรูปแบบนี้ก็คือ มีความปลอดภัยต่อระบบนิเวศใต้น้ำ การผลิตไฟฟ้าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการติดตั้งบนพื้นดิน เพราะในระหว่างที่ระบบของตัวโซลาร์เซลล์กำลังทำงาน ผืนน้ำรอบๆ จะช่วยระบายความร้อนได้ เป็นที่นิยมสำหรับแหล่งเพาะปลูกทางการเกษตรต่างๆ หรือพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำรอบๆ ไม่ว่าจะเป็น บ่อ บึง เขื่อน ทะเล ซึ่งวิธีการติดตั้งจะเป็นการนำแผงโซลาร์เซลล์มาติดกับทุ่นพลาสติก โดยตัวทุ่นจะเป็นเม็ดพลาสติก HDPE ที่ทนทานต่อการใช้งานกลางแสงแดด อีกทั้งยังมีความแข็งแรง และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน
2. การติดตั้งแบบหมุนตามดวงอาทิตย์ (Tracking System)
การติดตั้งโซลาร์ฟาร์มแบบหมุนตามดวงอาทิตย์ (Tracking System) เป็นการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่สามารถหัน หรือหมุนตามดวงอาทิตย์ได้ เพื่อให้แผงโซลาร์เซลล์สามารถดูดซับแสดงอาทิตย์ได้มากที่สุด จุดเด่นของการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในรูปแบบนี้ก็คือ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นถึง 30% แน่นอนว่าดีกว่าการยึดแผงโซลาร์เซลล์ติดอยู่กับที่ อีกทั้งรูปแบบนี้ยังสามารถติดตั้งได้ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นบนพื้นดิน บนที่พักอาศัย หรือตามตึกอาคารต่างๆ แต่ที่นิยมส่วนใหญ่ คือ จะติดไว้บนหลังคาบ้าน เพราะประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดพื้นที่บริเวณรอบๆ บ้าน ซึ่งวิธีการติดตั้งจะเป็นการติดตั้งแบบอาศัยโปรแกรมที่มีการควบคุมการหมุนของแผงโซลาร์เซลล์
3. การติดตั้งแบบยึดอยู่กับที่ (Fixed System)
การติดตั้งโซลาร์ฟาร์มแบบยึดอยู่กับที่ (Fixed System) เป็นการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ที่สามารถดูดซับแสงอาทิตย์ได้นานและมากที่สุด อีกทั้งตำแหน่งของการติดตั้งยังต้องเป็นตำแหน่งที่คงที่ชัดเจน จุดเด่นของการติดในติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในรูปแบบนี้ก็คือ ต้นทุนและค่าดูแลรักษาจะต่ำกว่าการติดตั้งโซลาร์ฟาร์มแบบลอยน้ำ และการติดตั้งแบบหมุนตามดวงอาทิตย์ บ้านเรือนส่วนใหญ่จึงนิยมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในรูปแบบนี้ ซึ่งก่อนติดตั้งจะต้องทำการสำรวจในพื้นที่ก่อนว่าบริเวณใดสามารถรับแสงอาทิตย์ได้มากที่สุด เมื่อสำรวจเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยทำการติดตั้ง
ข้อดีของโซลาร์ฟาร์ม
มาดูข้อดีของการติดตั้งโซลาร์ฟาร์มกัน!
- แหล่งพลังงานที่เพียงพอ สามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อการใช้งานทั้งในบ้านเรือน สถานที่ขนาดใหญ่ หรือโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าในระยะยาว เมื่อเทียบกับการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานแบบเดิม ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานสะอาด ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงในการผลิต ไม่มีการเผาไหม้ และไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่อากาศ อีกทั้งยังเป็นพลังงานที่สามารถใช้ผลิตไฟฟ้าได้อย่างไม่จำกัด
- ใช้งานได้ทันที ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์สามารถนำไปใช้งานได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการแปลงกระแสไฟฟ้าให้ยุ่งยาก
- ติดตั้งง่าย การทำโซลาร์ฟาร์มไม่ซับซ้อน เพียงมีอุปกรณ์พื้นฐานอย่างโซลาร์เซลล์ สายไฟ และแบตเตอรี่ ก็สามารถเริ่มผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้แล้ว

โซลาร์ฟาร์ม 1 MW ใช้พื้นที่กี่ไร่?
หลายๆ คนอาจสงสัย โซลาร์ฟาร์ม 1 MW ใช้พื้นที่กี่ไร่? การลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มขนาด 1 MW (เมกะวัตต์) ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 30 – 35 ล้านบาท บนพื้นที่ 10 – 15 ไร่ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 1.46 ล้านหน่วยต่อปี สร้างรายได้ประมาณ 3.2 ล้านบาทต่อปี เมื่อขายไฟฟ้าในราคา 2.20 บาทต่อหน่วย โครงการนี้จะใช้เวลาคืนทุนประมาณ 9 – 11 ปี ในขณะที่แผงโซลาร์เซลล์มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 25 – 30 ปี แต่หากนำไฟฟ้าที่ผลิตได้ไปใช้ในกิจการของตัวเอง โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง จะช่วยลดระยะเวลาคืนทุนให้เร็วขึ้นไปอีก
ธุรกิจโซลาร์ฟาร์มคุ้มไหม กี่ปีคืนทุน?
สำหรับใครที่กำลังสนใจโครงการโซลาร์ฟาร์ม ลองพิจารณาดูได้จากตัวอย่างการลงทุนต่อไปนี้ว่าคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบหลักๆ ดังนี้
โซลาร์ฟาร์ม 1 MW ใช้งบการลงทุนเท่าไร
การลงทุนโซลาร์ฟาร์มขนาด 1 MW คุ้มค่าอย่างน่าประหลาดใจ โดยมีระยะเวลาคืนทุนเพียง 3 – 4 ปีเท่านั้น ด้วยความสามารถในการผลิตไฟฟ้าได้ถึง 1,460,000 หน่วยต่อปี เมื่อคำนวณกับอัตราค่าไฟฟ้าสูงสุดที่ประมาณ 4.5 บาทต่อหน่วย ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 6,570,000 บาทต่อปี ส่งผลให้การลงทุนได้รับผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะมีพื้นที่ติดตั้งมากน้อยแค่ไหนก็ตาม การลงทุนในพลังงานสะอาดเช่นนี้จึงถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
โซลาร์ฟาร์ม 1 ไร่ ใช้งบการลงทุนเท่าไร
โครงการโซลาร์ฟาร์มขนาด 1 ไร่ กับระบบโซลาร์เซลล์ 100 กิโลวัตต์ เป็นการลงทุนที่น่าสนใจที่สามารถสร้างรายได้ถึง 400,000 บาทต่อปี โดยคำนวณจากการขายไฟฟ้าคืนให้การไฟฟ้าในราคาเฉลี่ย 2.20 บาทต่อหน่วย ซึ่งสร้างรายได้สูงสุดวันละ 1,100 บาท ทำให้โซลาร์ฟาร์มเป็นทางเลือกที่คืนทุนไว สร้างกำไรต่อเนื่อง และเป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่ให้เกิดมูลค่าสูงสุด เหมาะสำหรับผู้สนใจลงทุนในพลังงานสะอาดเพื่ออนาคต
อยากติดโซลาร์ฟาร์มต้องทำอย่างไร?
ขั้นตอนการเริ่มทำโครงการโซลาร์ฟาร์มไม่ได้ยากอย่างที่คิด มาดูขั้นตอนตั้งแต่ต้นยันจบกันเลย!
- การสำรวจพื้นที่และวางแผนการลงทุน เริ่มจากการสำรวจพื้นที่ที่ต้องการทำโซลาร์ฟาร์มเพื่อประเมินขนาดการติดตั้ง พื้นที่ยิ่งมากยิ่งดี แต่ต้องคำนึงถึงเงินทุนที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งและบำรุงรักษาด้วย ระบบขนาดใหญ่จะคืนทุนไวและทำกำไรเร็วกว่า
- การจดทะเบียนและขออนุญาต ดำเนินการจดทะเบียนกับหน่วยงานการไฟฟ้าเพื่อขออนุญาตทำธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม ทางหน่วยงานจะตรวจสอบระบบที่เลือกใช้ (ออนกริด ออฟกริด หรือไฮบริด) และดำเนินการลงทะเบียนให้อย่างถูกต้อง
- การออกแบบและติดตั้งระบบ หาบริษัทที่มีความชำนาญและประสบการณ์สูงในการดูแลโครงการ เนื่องจากโซลาร์ฟาร์มเป็นโครงการขนาดใหญ่ ควรเลือกบริษัทที่มีบริการหลังการขายต่อเนื่องเพื่อการบำรุงรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ
แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจโซลาร์ฟาร์มประเทศไทยในปี 2567
ธุรกิจ Solar Farm ในไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยการสนับสนุนจากนโยบายพลังงานทดแทนของรัฐบาลและความสนใจจากภาคเอกชน โดยเฉพาะแรงสนับสนุนจาก BOI หรือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งเป็นหน่วยงานทางภาครัฐที่มีหน้าที่ให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือ ดูแลรับผิดชอบ พร้อมทั้งสนับสนุนและช่วยส่งเสริมการลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้กับโรงงาน หรืออุตสาหกรรมที่เข้าร่วม
ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ของโซลาร์เซลล์ได้ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ทำให้แนวโน้มธุรกิจ Solar Farm 2567 มีศักยภาพสูงในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตในปี 2567 คือนโยบายรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจากภาคประชาชนในอัตรา 2.20 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ทั้งผู้ลงทุนรายใหญ่และประชาชนทั่วไปหันมาสนใจพลังงานสะอาดนี้มากขึ้น

สำรวจแนวโน้มธุรกิจโซลาร์ฟาร์มในไทยปี 2568 ล่าสุด!
ในปี 2568 ตลาดโซลาร์เซลล์ในไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยอัตราเฉลี่ย 22% ต่อปี และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 6.7 หมื่นล้านบาท ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากราคาแผงโซลาร์เซลล์และค่าติดตั้งที่ลดลง ทำให้ระยะเวลาคืนทุนเร็วขึ้นจาก 9 – 12 ปี เหลือเพียง 6 – 8 ปี ขณะที่ไทยกำลังเผชิญความท้าทายด้านพลังงาน เนื่องจากปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและเมียนมาลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากต่างประเทศมากขึ้น ทำให้ทั้งภาคครัวเรือนและธุรกิจ SMEs หันมาติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อรับมือค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคตนั่นเอง
สิ่งที่ควรคำนึงก่อนลงทุนโซลาร์ฟาร์ม
สิ่งที่ควรคำนึงก่อนลงทุนโซลาร์ฟาร์มก็มีเช่นกัน เรามาวิเคราะห์กันดูว่าควรคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้างหากคิดจะลงทุนทำโซลาร์ฟาร์ม
- ความไม่แน่นอนของการผลิตไฟฟ้า ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มมีความไม่แน่นอนเนื่องจากขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงอาทิตย์ในแต่ละวัน และสามารถผลิตไฟฟ้าได้เฉพาะในช่วงเวลากลางวันเท่านั้น
- ความต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ การติดตั้งโซลาร์ฟาร์มจำเป็นต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก เนื่องจากต้องติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในปริมาณมากเพื่อให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอต่อความต้องการ
- ต้นทุนการติดตั้งและอุปกรณ์ การลงทุนโซลาร์ฟาร์มต้องเตรียมเงินทุนสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สายไฟ แบตเตอรี่ ท่อร้อยสายไฟ จึงควรคำนวณความคุ้มค่าให้ดีเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอต่อการใช้งาน
สรุป
ได้เห็นกันไปแล้วว่าโซลาร์ฟาร์ม 1 MW ใช้พื้นที่กี่ไร่ โซลาร์ฟาร์มเปรียบเสมือนโรงไฟฟ้าทางเลือกที่สะอาดกว่า ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จำนวนมากเพื่อแปลงแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า ส่งต่อไปยังระบบไฟฟ้าภูมิภาคหรือโรงงานอุตสาหกรรม แนวโน้มธุรกิจโซลาร์ฟาร์มในปี 2567 จึงเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่ 22% ต่อปี และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 6.7 หมื่นล้านบาทในปี 2568 ด้วยปัจจัยหนุนจากนโยบายรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในอัตรา 2.20 บาทต่อหน่วย
Chuphotic จำหน่ายอินเวอร์เตอร์โซลาร์เซลล์ที่เหมาะสำหรับการติดตั้งโซลาร์ฟาร์ม เพื่อช่วยแปลงพลังงานจากแสงแดดให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งช่วยให้ระบบโซลาร์เซลล์ทำงานได้เต็มที่ ประหยัดค่าไฟและช่วยเรื่องความคุ้มค่าได้ในระยะยาว