เลือกเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ยังไงให้เหมาะสมกับคอมสุดรักของคุณ
รู้หรือไม่ สิ่งที่อุปกรณ์ไฟฟ้ากลัวมากที่สุดคือกระแสไฟฟ้าที่ไม่มั่นคง นั่นเพราะอุปกรณ์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยกระแสไฟฟ้า หากเปรียบเทียบคงไม่ต่างจากพลังชีวิตของคน ดังนั้น หากคุณต้องการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด อย่าลืมทำความเข้าใจเรื่องกระแสไฟฟ้า และการดูแลรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ดี โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่จัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ
เพราะฉะนั้นการมีเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ ที่เป็นเครื่องมือเฉพาะสำหรับการใช้สำรองไฟฟ้าให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากต่อการยืดอายุการใช้งานของคอมพิวเตอร์ บทความนี้จะพาไปดูวิธีการเลือกอย่างถูกวิธี การดูแลรักษา สำหรับคนที่อยากปกป้องและยืดอายุการใช้งาน และเพื่อให้คอมพิวเตอร์ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ปลอดภัยจากเหตุการณ์ไฟตก ไฟกระชาก ที่อาจทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณพังได้
เครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ คืออะไร
ก่อนไปเลือกซื้อเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ อย่าลืมทำความรู้จักกับเครื่องสำรองไฟให้ดีเสียก่อน เพราะเมื่อเข้าใจรูปแบบการทำงาน โครงสร้างการทำงานแล้ว ก็จะทำให้คุณสามารถใช้งานและดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้าของคุณได้อย่างดีขึ้น
เครื่องสํารองไฟคอมพิวเตอร์ หรือ ups ย่อมาจาก Uninterruptible Power Supply หน้าที่หลักคือการกักเก็บพลังงานไฟฟ้า และส่งต่อพลังงานไฟฟ้าด้วยคลื่นความถี่ที่คงที่ อย่างในกรณีที่เกิดไฟตก ไฟกระชาก หรือการถ่ายเทกระแสไฟฟ้าไม่คงที่ ups จะนำพลังงานที่สำรองไว้จ่ายไฟออกไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะกับเครื่องคอมพิวเตอร์ การมี ups จะช่วยให้การใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังสามารถใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น ทีวี ปลั๊กต่อสำหรับชาร์จอุปกรณ์มือถือ เป็นต้น
หลักการทำงานของเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์
ประเภทของเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์
1. Offline or Standby UPS
2. Line-Interactive UPS
3. Online or Double Conversion UPS
เลือกเครื่องสํารองไฟคอมพิวเตอร์ยังไงให้มีประสิทธิภาพ
เลือกจากอุปกรณ์ที่ต้องการนำไปใช้งาน
เลือกจากขนาดกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้า
สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกเครื่องสำรองไฟคอมพิวเตอร์ คือเรื่องขนาดกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งการโหลดต่อพ่วงขนาดกำลังไฟฟ้าที่ดีไม่ควรเกิน 80% ของกำลังไฟฟ้า UPS (สาเหตุที่ UPS ควรใหญ่กว่ากำลังไฟรวมของโหลด เพื่อสำรองไว้ในกรณี Overload) โดยหลักการค่านวณขนาดกำลังสามารถทำได้ดังนี้
- ตรวจเช็ครายการอุปกรณ์ที่จะต่อพ่วงทั้งหมด
- ตรวจเช็ค VA ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดกินกำลังไฟกี่วัตต์
- คำนวณ : VA โดย x ค่า Volt + Amps
- รวมค่า VA ของอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกรายการที่จะต่อพ่วง UPS
- เลือก เครื่องสํารองไฟคอมพิวเตอร์โดยนำค่า 0.8 มาหาร
*ตัวอย่าง คำนวนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต่อพ่วง ได้ 240 Watt ให้คำนวน 240/0.8 = 300 ดังนั้น ควรเลือกใช้ UPS ที่มีกำลังไฟมากกว่า 300 Watt ขึ้นไป
เลือกจากคุณภาพของกระแสไฟฟ้าในสถานที่ที่ต้องการใช้งาน
ถ้าโจทย์การเลือกของคุณไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่เป็นการเลือกเครื่องสำรองไฟสำหรับคอมพิวเตอร์ อาจต้องอิงจากสถานที่ใช้งาน คำแนะนำที่ดีที่สุดควรแบ่งสถานที่ออกเป็น 2 ประเภทคือ
- สถานที่ที่มีความผันแปรของกระแสไฟฟ้าสูง ควรเลือกใช้เครื่องสํารองไฟคอมพิวเตอร์ชนิด True on line UPS
- สถานที่ทั่วไปที่มีกระแสไฟฟ้าปกติ แนะนำให้เลือกใช้เครื่องสํารองไฟคอมพิวเตอร์ชนิด True on line UPS