ไฟบ้านตกบ่อยเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไข และป้องกันความเสียหายอย่างไร
อันตรายหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการใช้ไฟฟ้า คือปัญหาไฟตก หลายๆ คนอาจเคยพบว่าไฟบ้านตกบ่อยครั้ง นั่นก็มาจากแรงดันไฟฟ้าจ่ายกระแสไฟฟ้าต่ำกว่าที่กำหนด ซึ่งแน่นอนว่าปัญหานี้ส่งผลเสียต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าของเรา ดังนั้นเราจึงควรมีวิธีรับมือกับปัญหาไฟตก และเรียนรู้วิธีการป้องกันไฟตกอย่างถูกต้อง
ไขข้อข้องใจ ไฟตก คืออะไร
ปัญหาไฟตก คือการที่แรงดันไฟฟ้าจ่ายไฟมาต่ำกว่าที่กำหนด ปกติแล้วตามครัวเรือน หรือสถานที่โดยทั่วไปมักจะรับไฟฟ้าอยู่ที่ 220 โวลต์ (220V) โดยในกรณีที่เกิดไฟตกนั้น แสดงว่ากระแสไฟมีแรงดันที่ต่ำกว่า 220V ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เกิดความขัดข้องขึ้นได้

สาเหตุของการเกิดไฟตก มีอะไรบ้าง
ปัญหาไฟตกบ่อยเกิดจากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากระบบไฟฟ้า หรือปัจจัยอื่นๆ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ไฟตกบ่อยมีดังนี้
ไฟกระชาก
ไฟกระชากเกิดจากการที่แรงดันของกระแสไฟฟ้าขาดเสถียรภาพในการจ่ายไฟในชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งมีแรงดันไฟที่ต่ำกว่าปกติ ไฟฟ้าในครัวเรือนจึงกระตุก และทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานขัดข้อง
ตัวนำไฟฟ้าขัดข้อง
ตัวนำไฟฟ้าช็อต หรือบางส่วนของตัวนำขัดข้อง เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ไฟตกได้ โดยตัวนำไฟฟ้านั้นทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการจ่ายกระแสไฟในครัวเรือน ดังนั้น หากตัวนำเกิดความขัดข้อง ก็แน่นอนว่าจะต้องส่งผลต่อระบบไฟฟ้า ทำให้ไฟตกได้เช่นกัน
ฝนตกหนัก และมีพายุ
ปัจจัยจากธรรมชาติก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ไฟตกอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นฟ้าผ่า ฝนตกหนัก พายุ หรือมีลมพัดแรง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ไร้เสถียรภาพในการจ่ายไฟไปชั่วขณะ อีกทั้ง ในบางครั้งการเกิดฟ้าผ่าก็อาจทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด หรือมีเหตุการณ์ต้นไม้โค่นล้มมาทับสายไฟ จนอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้เช่นกัน
สายไฟชำรุด
สายไฟชำรุดนั้นจะส่งผลให้เกิดปัญหาโดยตรงต่อการทำงานของตัวนำไฟฟ้า หรือทองแดงที่เป็นฉนวนในการนำไฟฟ้า ซึ่งเมื่อตัวนำไฟฟ้าเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากการที่สายไฟชำรุด ก็จะส่งผลต่อไปยังปัญหาไฟฟ้าที่ทำให้ไฟตกได้
เปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกันมากไป
เมื่อครัวเรือน หรือสถานที่ต่างๆ มีการใช้กระแสไฟพร้อมกันในทีละมากๆ จะทำให้กระแสไฟฟ้าที่จะต้องส่งไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มีไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงทำให้ไฟช็อต หรือไฟตก จนอุปกรณ์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดความขัดข้องจนไม่สามารถใช้งานได้ปกติ
บ้านละแวกเดียวกันแย่งกันใช้ไฟฟ้า
ในลักษณะเดียวกัน หากชุมชนใดมีผู้อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก หรือในบางพื้นที่ต้องการใช้ไฟมากเกินกว่าปกติ จะทำให้เกิดการแย่งไฟกัน ทำให้กระแสไฟฟ้าถูกจ่ายออกไปได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งคล้ายๆ กับการที่เราเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกัน จึงทำให้เกิดเป็นปัญหาไฟตกบ่อยๆ ได้
บ้านอยู่ไกลสถานีจ่ายไฟ
ระยะห่างจากแหล่งที่พักอาศัยถึงสถานีจ่ายไฟควรอยู่ในระยะห่างที่เหมาะสม เพื่อไม่ทำให้เกิดความอันตรายต่อผู้พักอาศัย แต่ในบางครั้ง หากอยู่ไกลจากสถานีจ่ายไฟมากเกินไป ก็จะทำให้กระแสไฟจ่ายไปยังครัวเรือนได้ช้า และไม่ทันต่อการใช้งาน ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาไฟตกบ่อยครั้งได้
กระแสไฟฟ้าไหลลงดิน
กระแสไฟฟ้าไหลลงดินเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดปัญหาไฟตกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะทำให้เกิดความขัดข้องต่อการใช้งานของอุปกรณ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว ยังก่อให้เกิดความอันตรายต่อผู้ใช้งาน โดยกระแสไฟฟ้าไหลลงดินอาจเกิดจากฉนวนไฟฟ้าชำรุด การติดตั้งสายดินที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้ตรวจสอบความพร้อมในการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้านั่นเอง
ผลกระทบจากการเกิดไฟตกบ่อย
หากเกิดปัญหาไฟตก แน่นอนว่าจะส่งผลต่อการทำงานของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งเมื่อไฟตก จะทำให้แรงดันไฟส่งไปยังระบบไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ไม่เพียงพอ ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เมื่อเกิดไฟตกบ่อยๆ เข้าก็อาจทำให้อายุการใช้งานของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าลดน้อยลง นอกจากนี้แล้ว อันตรายจากไฟตกอาจส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ต่อระบบไฟฟ้าภายในครัวเรือน หรืออย่างร้ายที่สุดคืออาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้นั่นเอง
วิธีแก้ไข และป้องกันการเกิดไฟตกบ่อย
วิธีการป้องกันไฟตก และแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานั้นมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการหมั่นดูแล ตรวจสอบระบบไฟฟ้า และตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาไฟตกบ่อย ซึ่งวิธีการป้องกัน และแก้ไขสามารถทำได้ดังนี้
เลือกใช้แต่อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน
เลือกใช้อุปกรณ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อป้องกันการเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจร และไฟตก นอกจากนี้ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานก็จะสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งานได้ด้วยเช่นกัน
ถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อไม่ใช้แล้ว
ถอดปลั๊กไฟเมื่อไม่ได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ แล้ว เพื่อการหลีกเลี่ยงปัญหาการแย่งใช้ไฟฟ้าของอุปกรณ์ต่างๆ จนอาจทำให้แรงดันไฟไม่พอ จนทำให้เกิดปัญหาไฟตกได้
ไม่ใช้สายไฟชำรุดเด็ดขาด
ผู้ใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกๆ คนควรมีการตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายไฟต่างๆ ก่อนการใช้งานอยู่เสมอ เพราะเนื่องจากสายไฟจะมีตัวกลางที่ทำหน้าที่ในการจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ หากสายไฟชำรุดเสียหายก็จะทำให้ไฟจ่ายไปยังอุปกรณ์ได้ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดไฟตกอยู่บ่อยครั้ง และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้
เลือกอุปกรณ์จ่ายไฟที่เหมาะสม
ตั้งแต่ต้นก่อนการเดินระบบไฟฟ้า ควรมีการสำรวจการใช้ไฟของครัวเรือน หรืออาคารสถานที่ว่ามีความต้องการใช้ไฟมากน้อยเพียงใด เพื่อทำให้สามารถเลือกติดตั้ง หรือเดินระบบไฟฟ้าให้จ่ายกระแสไฟได้อย่างเพียงพอต่อการใช้งาน เพื่อลดการเกิดปัญหาไฟตกบ่อยในครัวเรือนได้
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อฝนตกหนัก
ในช่วงที่ฝนตกหนัก อาจทำให้มีฟ้าผ่า พายุ และลมพัดแรง ซึ่งจะส่งผลทำให้ความเสถียรในการจ่ายกระแสไฟไปยังครัวเรือนลดน้อยลง และเกิดไฟตกได้ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการกระแสไฟมากๆ ในช่วงที่ฝนตกหนัก
ตรวจสอบระบบไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่เสมอ
การตรวจสอบระบบไฟฟ้า และประสิทธิภาพในการทำงานของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นเป็นสิ่งที่ดี และควรทำ เนื่องจากหากระบบไฟฟ้าส่วนใดส่วนหนึ่งมีการทำงานที่ผิดปกติ ก็จะทำให้ระบบไฟฟ้าส่วนอื่นๆ ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน อาจทำให้เกิดไฟตก หรือไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินได้
ติดอุปกรณ์ช่วยป้องกันไฟตก
ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟตกเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดปัญหาไฟตกบ่อยในครัวเรือนของคุณได้ เช่น เครื่องรักษาแรงดันไฟฟ้า และ อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก เป็นต้น โดยอุปกรณ์ป้องกันไฟตกจะทำหน้าที่ปรับแรงดันกระแสไฟฟ้าให้เหมาะสมต่อความต้องการไฟฟ้าของอุปกรณ์ ไม่ว่ากระแสไฟจะขาด หรือเกินเครื่องช่วยป้องกันไฟตกก็จะสามารถช่วยปรับกระแสไฟให้จ่ายไฟได้อย่างพอดี เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
ติดตั้งเครื่องสำรองไฟ
บางครั้งปัญหาไฟตกอาจเกิดจากสาเหตุที่ควบคุมได้ยาก ดังนั้น การเลือกที่จะติดตั้งเครื่องสำรองไฟฟ้า ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีต่อการทำงานของระบบไฟภายในครัวเรือน เพราะเครื่องสำรองไฟฟ้าจะทำหน้าที่ในการจ่ายกระแสไฟไปยังอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ในสถานการณ์ที่เกิดเหตุขัดข้องที่ทำให้กระแสไฟจ่ายไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างไม่พอดี โดยเครื่องสำรองไฟฟ้าจะช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าสามารถทำงานได้อย่างปกติ และรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้นานยิ่งขึ้น
สรุป
ปัญหาไฟตกเป็นปัญหาที่พบเจอได้บ่อยครั้งในชีวิตประจำวัน บ้างก็เกิดขึ้นจากการชำรุดเสียหายของเครื่องใช้ไฟฟ้าเอง เกิดจากระบบการจ่ายไฟฟ้าหลัก เกิดจากการใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่เหมาะสมของผู้ใช้งาน หรืออาจเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมได้ยากจากธรรมชาติ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้เกิดไฟตกบ่อยครั้งในครัวเรือน ส่งผลให้การใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขัดข้อง และไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำให้อายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลงอีกด้วย ดังนั้น จึงควรมีวิธีในการแก้ไข และป้องกันไฟตก ไม่ว่าจะเป็นการหมั่นสำรวจความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า การเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน การหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น หรือป้องกันโดยการใช้เครื่องสำรองไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัยต่อการใช้ไฟฟ้า ระบบไฟฟ้า และที่สำคัญที่สุดคือเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานนั่นเอง
โดยที่ Chuphotic มีทั้งเครื่องสำรองไฟฟ้า อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก และเครื่องรักษาแรงดันไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน เพื่อที่ในกรณีที่ไฟฟ้าเกิดความขัดข้องภายในครัวเรือน จะได้มีแหล่งสำรองไฟ และอุปกรณ์ที่จะช่วยสร้างความปลอดภัยในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ซึ่ง Chuphotic ก็มีบริการให้คำปรึกษา ติดตั้ง ประกัน รวมไปถึงบริการหลังการขายด้วยเช่นกัน