fbpx

ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต เกิดจากอะไร รู้จักวิธีตรวจสอบและป้องกันเบื้องต้น

  • Home
  • เกร็ดความรู้
  • ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต เกิดจากอะไร รู้จักวิธีตรวจสอบและป้องกันเบื้องต้น
ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต เกิดจากอะไร รู้จักวิธีตรวจสอบและป้องกันเบื้องต้น

ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต เกิดจากอะไร รู้จักวิธีตรวจสอบและป้องกันเบื้องต้น

Key Takeaway

  • ไฟรั่วเกิดจากกระแสไฟไหลออกนอกวงจร ไฟดูดเกิดเมื่อร่างกายสัมผัสกระแสไฟ และไฟช็อตเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดประกายไฟหรือเพลิงไหม้
  • สาเหตุที่ทำให้เกิดไฟรั่ว ไฟดูด และไฟช็อต คือสายไฟชำรุด เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า ไม่มีสายดิน การติดตั้งไม่ถูกต้อง อุปกรณ์คุณภาพต่ำ ความชื้น และการซ่อมไฟด้วยตัวเอง
  • ตรวจเช็กไฟรั่วเบื้องต้นด้วยการใช้ไขควงวัดไฟตรวจจุดเสี่ยง เช็กด้วยเครื่องตรวจจับไฟรั่ว สังเกตอาการผิดปกติ และดูมิเตอร์ไฟฟ้าว่ามีการไหลผิดปกติหรือไม่
  • ป้องกันไฟรั่วก่อนเกิดเหตุด้วยการติดตั้งสายดินและเบรกเกอร์ตัดไฟ อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก ตรวจสอบมิเตอร์และสายไฟเป็นประจำ ใช้ไขควงวัดไฟและตรวจเต้ารับสม่ำเสมอ

ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต เป็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุด สายไฟที่เสีย หรือระบบสายดินที่ไม่ได้มาตรฐาน หากไม่ระวังอาจเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ บทความนี้พาไปรู้จักสาเหตุของปัญหาไฟฟ้าเหล่านี้ พร้อมวิธีตรวจสอบและแนวทางป้องกันเบื้องต้นที่ทุกคนควรรู้ไว้เพื่อความปลอดภัยในบ้านและที่ทำงาน!

ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต คืออะไร?

ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต คืออะไร?

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ไฟรั่ว ไฟดูด หรือไฟช็อต แต่ไม่แน่ใจว่าความหมายต่างกันอย่างไร จริงๆ แล้วทั้งสามคำนี้เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าแต่เกิดขึ้นจากสาเหตุและผลกระทบที่แตกต่างกัน การเข้าใจความหมายจะช่วยให้เราใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยมากขึ้น

 

ไฟรั่ว (Leakage Current)

ไฟรั่ว คือกระแสไฟฟ้าที่ไหลออกจากวงจรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าไปสู่พื้นหรือส่วนที่ไม่ได้ตั้งใจให้มีกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้น ปัญหานี้มักเกิดจากฉนวนไฟฟ้าเสื่อมสภาพหรือมีความชื้นสัมผัสกับสายไฟ หากไม่ได้รับการแก้ไข ไฟรั่วอาจทำให้อุปกรณ์เสียหายหรือเกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน ดังนั้นจึงควรติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว เช่น เบรกเกอร์ไฟรั่ว (RCCB) เพื่อลดความเสี่ยง

 
 
 
 

ไฟดูด (Electric Shock)

ไฟดูด คืออาการที่ร่างกายได้รับกระแสไฟฟ้าโดยตรงเมื่อสัมผัสกับสายไฟหรืออุปกรณ์ที่มีไฟฟ้าไหลอยู่ การไฟดูดสามารถทำให้เกิดอาการตั้งแต่ชาเล็กน้อย กล้ามเนื้อกระตุก จนถึงอันตรายถึงชีวิต ขึ้นอยู่กับความแรงของกระแสไฟฟ้า ระยะเวลา และเส้นทางที่ไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย การป้องกันไฟดูดทำได้โดยการใช้ปลั๊กและสายไฟมาตรฐาน รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟอัตโนมัติ

ไฟช็อต (Short Circuit)

ไฟช็อต หรือวงจรลัดวงจรเกิดขึ้นเมื่อสายไฟสองสายที่มีแรงดันต่างกันสัมผัสกันโดยตรง ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลสูงกว่าปกติทันที ผลลัพธ์อาจทำให้สายไฟร้อน ลุกไหม้ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย ไฟช็อตเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้บ้านและอุบัติเหตุไฟฟ้าได้บ่อย การป้องกันคือควรตรวจสอบสายไฟและอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ และใช้เบรกเกอร์ป้องกันไฟช็อต

สาเหตุที่ทำให้เกิดไฟรั่ว ไฟดูด และไฟช็อต

สาเหตุที่ทำให้เกิดไฟรั่ว ไฟดูด และไฟช็อต

ไฟรั่ว ไฟดูด และไฟช็อต ส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ สภาพสายไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า และการติดตั้งระบบไฟฟ้า หากไม่ระวัง อาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้

  • สายไฟชำรุดหรือเสื่อมสภาพ สายไฟที่ฉนวนแตก ขาด หรือเก่าเสื่อมสามารถทำให้กระแสไฟฟ้าไหลออกนอกวงจร เกิดไฟรั่ว ไฟดูด หรือไฟช็อตได้
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า หรือมีปัญหาภายใน อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุดภายใน เช่น มอเตอร์ไหม้ หรือสายไฟขาดภายในเครื่อง ทำให้เกิดไฟรั่วหรือไฟช็อตเมื่อใช้งาน
  • ไม่มีระบบสายดินหรือสายดินไม่ทำงาน การขาดสายดินทำให้ไฟรั่วมีโอกาสทำให้ผู้ใช้งานโดนไฟดูด หรือเกิดอันตรายจากกระแสไฟฟ้าได้
  • การติดตั้งระบบไฟฟ้าไม่ถูกต้องหรือไม่ได้มาตรฐาน การต่อสายไฟผิด การใช้เบรกเกอร์หรือปลั๊กไม่เหมาะสม ทำให้เกิดไฟช็อตหรือไฟรั่วง่ายขึ้น
  • อุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพต่ำ หรือไม่ได้มาตรฐาน มอก. อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่ได้มาตรฐาน มักมีฉนวนไม่ดี เสี่ยงต่อไฟรั่ว ไฟดูด และไฟช็อต
  • ความชื้น น้ำรั่ว หรือน้ำขังใกล้แหล่งจ่ายไฟ น้ำเป็นตัวนำไฟฟ้า หากมีน้ำรั่วหรือขังใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้า จะเพิ่มความเสี่ยงไฟดูดและไฟช็อต
  • การซ่อมหรือดัดแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยตนเอง การแก้ไขสายไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าโดยไม่ชำนาญ ทำให้เกิดการเชื่อมต่อผิดพลาด เสี่ยงไฟช็อตและไฟรั่ว
 

เช็กอาการ ไฟดูดกับไฟช็อต แตกต่างกันอย่างไร?

แม้คนส่วนใหญ่มักเรียกไฟดูดและไฟช็อตว่าเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างทั้งสาเหตุและอาการที่เกิดขึ้นดังนี้

ไฟดูด (Electric Shock) สัมผัสกับไฟฟ้าแรงต่ำหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุด เช่น ปลั๊กสายไฟเก่า หรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้ต่อสายดิน ซึ่งจะรู้สึกช็อตเบาๆ หรือสั่นๆ ตามมือ แขน หรือร่างกาย บางครั้งแค่ชาๆ หรือรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟผ่านปกติอาการจะชั่วคราวและไม่รุนแรงมาก ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ถ้ากระแสไฟสูงหรือสัมผัสนานอาจทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือบาดเจ็บได้

ไฟช็อต (Short Circuit) สัมผัสกับไฟฟ้าแรงสูงหรือไฟฟ้ากระแสตรงแรงสูง เช่น สายไฟแรงสูง เครื่องจักรไฟฟ้า จะเกิดอาการร่างกายกระตุกทันที แขนขาเกร็งจนเคลื่อนไหวไม่ได้ อาจหมดสติ หัวใจเต้นผิดปกติ หรือหายใจลำบาก อาจเกิดบาดแผลไหม้ที่ผิวหนังหรือเนื้อเยื่อด้านใน และอันตรายถึงชีวิต ต้องรีบช่วยเหลือฉุกเฉิน

วิธีการตรวจเช็กไฟรั่วเบื้องต้น

วิธีการตรวจเช็กไฟรั่วเบื้องต้น

การตรวจเช็กไฟรั่วเบื้องต้น เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟดูดหรือไฟช็อต โดยสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยวิธีที่ไม่ซับซ้อนและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน

  1. ใช้ไขควงวัดไฟ (Test Pen) ตรวจสอบ เช็กไฟรั่วด้วยการนำไขควงวัดไฟไปแตะบริเวณปลั๊กหรือสายไฟ ถ้ามีไฟรั่ว ไขควงจะสว่างขึ้น แสดงว่ามีกระแสไฟไหลผ่านจุดนั้น ควรระวังและตัดไฟก่อนซ่อม
  2. เช็กด้วยเครื่องตรวจจับไฟรั่ว (Earth Leakage Detector) การตรวจเช็กไฟรั่วด้วยเครื่องนี้สามารถวัดกระแสไฟรั่วได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรในบ้านอย่างสม่ำเสมอ
  3. สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไฟตกบ่อย หลอดไฟสว่างไม่สม่ำเสมอ เบรกเกอร์ตกบ่อย หรือมีประกายไฟเล็กๆ บริเวณปลั๊กและสายไฟ สิ่งเหล่านี้อาจบอกเป็นสัญญาณไฟรั่ว
  4. ดูมิเตอร์ไฟฟ้า เช็กไฟรั่วง่ายๆ หากมิเตอร์ไฟฟ้าวิ่งต่อเนื่องแม้ว่าจะไม่มีการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า อาจบ่งบอกว่ามีไฟรั่วไหลออกจากวงจร ควรให้ช่างไฟมาตรวจสอบทันที
6 วิธีป้องกันไฟรั่ว ก่อนเกิดเหตุ

6 วิธีป้องกันไฟรั่ว ก่อนเกิดเหตุ

การป้องกันไฟรั่วก่อนเกิดเหตุเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงไฟดูด ไฟช็อต หรือไฟไหม้บ้านได้ การเตรียมความพร้อมและตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้บ้านปลอดภัยมากขึ้น

ติดตั้งสายดิน และระบบตัดไฟฟ้าอัตโนมัติ

การติดตั้งสายดิน (Grounding) และเบรกเกอร์ตัดไฟอัตโนมัติ (RCCB หรือ ELCB) จะช่วยป้องกันไฟรั่วและไฟดูดได้ เมื่อเกิดไฟรั่ว กระแสไฟฟ้าจะไหลลงสายดินและตัดไฟทันที ลดความเสี่ยงต่ออันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สิน

ตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งาน

การดูแลมิเตอร์ไฟฟ้าให้ทำงานปกติช่วยให้สามารถสังเกตพฤติกรรมผิดปกติของกระแสไฟ เช่น ไฟรั่วหรือไฟตก หากมิเตอร์วิ่งผิดปกติแม้ไม่มีการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ควรเรียกช่างมาตรวจสอบทันที

ตรวจสอบไฟรั่วโดยใช้ไขควงวัดไฟฟ้า

ใช้ไขควงวัดไฟฟ้า (Test Pen) ตรวจสอบที่ปลั๊กและสายไฟ หากไขควงสว่าง แสดงว่ามีกระแสไฟรั่วอยู่ การตรวจสอบเป็นประจำช่วยให้พบไฟรั่วตั้งแต่เริ่มแรกและแก้ไขได้ทันเวลา

ตรวจสอบการชำรุดของสายไฟฟ้า

สายไฟที่ฉนวนแตก ขาด หรือเก่าเสื่อมเป็นสาเหตุหลักของไฟรั่วและไฟช็อต การตรวจสอบสายไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอและเปลี่ยนสายที่ชำรุดจะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก

 
 
 

ตรวจสอบเต้ารับไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ

เต้ารับไฟฟ้าที่หลวม มีรอยไหม้ หรือสกปรกสามารถทำให้เกิดไฟรั่วหรือไฟช็อตได้ การตรวจสอบและทำความสะอาดเต้ารับเป็นประจำ ช่วยให้การใช้งานปลอดภัยและลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากไฟฟ้า

ข้อห้ามสำคัญ! เมื่อเกิดไฟดูด หรือไฟช็อต

ข้อห้ามสำคัญ! เมื่อเกิดไฟดูด หรือไฟช็อต

เมื่อเกิดไฟดูดหรือไฟช็อตสิ่งสำคัญคือต้องรู้ และข้อห้ามที่ไม่ควรทำเด็ดขาด เพราะการทำผิดวิธีอาจทำให้ได้รับอันตรายรุนแรงขึ้น เช่น ไฟช็อตซ้ำหรือหัวใจหยุดเต้น

  • อย่าสัมผัสผู้ประสบภัยด้วยมือเปล่า หากผู้ถูกไฟดูดยังสัมผัสกับกระแสไฟ การเข้าไปจับโดยตรงจะทำให้คุณถูกไฟดูดตามไปด้วย
  • อย่าใช้น้ำช่วยดับหรือดึงผู้ประสบภัย น้ำเป็นตัวนำไฟฟ้า การใช้น้ำอาจทำให้ไฟไหลผ่านร่างกายของคุณและผู้ประสบภัยเพิ่มความเสี่ยง
    อย่าเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยโดยไม่จำเป็น หากไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ให้ตัดไฟจากแหล่งจ่ายก่อนเพื่อความปลอดภัย
  • อย่าใช้ความรุนแรงเพื่อดึงสายไฟหรืออุปกรณ์ออก การดึงแรงๆ อาจทำให้ไฟลัดวงจรหรือเกิดประกายไฟเพิ่มขึ้น
  • อย่าเพิกเฉยต่ออาการหลังไฟดูด แม้อาการเบื้องต้นดูเล็กน้อย แต่กระแสไฟฟ้าอาจทำให้หัวใจเต้นผิดปกติหรือเกิดปัญหาอื่นภายในร่างกาย
  • อย่าให้ผู้ประสบภัยกลับไปใช้อุปกรณ์ทันที ต้องตรวจสอบอุปกรณ์และแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันเหตุซ้ำ

วิธีปฐมพยาบาลเมื่อโดนไฟดูด หรือไฟช็อต

เมื่อเกิดไฟดูดหรือไฟช็อต การปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธีทันทีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการและป้องกันอันตรายต่อชีวิตได้

  • ตัดแหล่งจ่ายไฟทันที ก่อนเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้ปิดสวิตช์ไฟหรือดึงปลั๊กไฟออกจากแหล่งจ่าย หากไม่สามารถตัดไฟได้ ให้ใช้วัสดุที่ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า เช่น ไม้หรือพลาสติก แยกผู้ประสบภัยออกจากแหล่งไฟ
  • อย่าสัมผัสผู้ประสบภัยโดยตรงถ้ายังมีกระแสไฟอยู่ การสัมผัสตรงอาจทำให้คุณโดนไฟดูดตามไปด้วย
  • ตรวจสอบสัญญาณชีพ หลังตัดไฟแล้ว ให้เช็กการหายใจและชีพจรของผู้ประสบภัย หากผู้ประสบภัยหมดสติหรือไม่หายใจ ให้ทำ CPR ทันที
  • ปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับบาดแผลไฟไหม้ หากมีรอยไหม้จากไฟฟ้า ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดเย็น ห้ามใช้ครีมหรือสารเคมีใดๆ ทาแผล และปิดด้วยผ้าสะอาด
  • ให้ผู้ประสบภัยพักและสังเกตอาการ แม้อาการดูปกติ ควรให้นอนพักในที่ปลอดภัย และสังเกตอาการผิดปกติ เช่น เวียนหัว ชา ปวดหัว หรือหัวใจเต้นผิดปกติ
  • รีบพาไปพบแพทย์ แม้อาการไม่รุนแรง ควรให้แพทย์ตรวจเช็กภายในร่างกาย เพราะไฟฟ้าอาจทำลายอวัยวะภายในหรือหัวใจโดยไม่แสดงอาการทันที

ข้อควรระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกไฟดูด ไฟช็อต

การป้องกันไฟดูดและไฟช็อตสำคัญยิ่งกว่าการแก้ไขอุบัติเหตุ เพราะช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน การปฏิบัติตาม ข้อควรระวังง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้บ้านและอุปกรณ์ไฟฟ้าปลอดภัยมากขึ้น

  • ตรวจสอบสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นประจำ
  • ติดตั้งสายดินและอุปกรณ์ตัดไฟอัตโนมัติ
  • หลีกเลี่ยงใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าใกล้น้ำหรือในที่ชื้น
  • เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน
  • ไม่ดัดแปลงหรือซ่อมสายไฟด้วยตัวเอง
  • ใช้วัสดุไม่เป็นตัวนำไฟฟ้าเมื่อทำงานใกล้ไฟฟ้า
 
 

สรุป

ไฟรั่ว ไฟดูด และไฟช็อต เป็นอันตรายจากระบบไฟฟ้าที่พบได้บ่อยและไม่ควรมองข้าม ไฟรั่วเกิดจากกระแสไฟไหลออกนอกวงจร หากเผลอสัมผัสอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหรือเกิดไฟไหม้ได้ ไฟดูดเกิดเมื่อร่างกายสัมผัสจุดที่ไฟรั่ว ทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง และหากกระแสไฟผ่านหัวใจอาจหยุดเต้นและเสียชีวิตได้ ส่วนไฟช็อตมักเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เป็นสาเหตุหลักของประกายไฟและเพลิงไหม้บ้านเรือน การป้องกันและตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงได้

ดูแลตัวเองและคนในบ้าน หรือสำนักงาน โรงงาน ให้ปลอดภัยจากเหตุไม่คาดฝันได้ทุกวัน ด้วยการใช้บริการ Chuphotic จำหน่ายอุปกรณ์ตัดไฟอัตโนมัติ และป้องกันไฟกระชาก และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งให้คำปรึกษาและตรวจสอบระบบไฟฟ้าครบวงจร ดูแลบ้านคุณให้ปลอดภัยและอุ่นใจทุกวัน

FAQ — คำถามที่พบบ่อย

ไฟรั่วเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในบ้านและสำนักงาน การเข้าใจสาเหตุและวิธีป้องกันจะช่วยลดความเสี่ยงไฟดูด ไฟช็อต และไฟไหม้

เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบไหนเสี่ยงไฟรั่วบ่อย?

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์หรือความร้อนสูง เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องปรับอากาศ มักเสี่ยงไฟรั่วมากกว่าปกติ

 
 

เบรกเกอร์ตัดไฟบ่อย แปลว่ามีไฟรั่วหรือเปล่า?

 ไม่เสมอไป การตัดไฟอาจเกิดจากโหลดเกินหรือกระแสไฟผิดปกติ แต่ถ้าตัดบ่อยโดยไม่ใช้อุปกรณ์มาก ควรตรวจสอบไฟรั่วทันที

 
 
 

อุปกรณ์ป้องกันไฟรั่วมีอะไรบ้าง?

 อุปกรณ์หลักคือ RCCB หรือ ELCB ซึ่งตัดไฟอัตโนมัติเมื่อพบกระแสไฟรั่ว นอกจากนี้ยังมี สายดิน และ อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (Surge Protector) ช่วยเพิ่มความปลอดภัย

Leave A Reply