fbpx

เล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้อง ปลอดภัยจริงไหม? หรือเสี่ยงโดนฟ้าผ่า?

  • Home
  • เกร็ดความรู้
  • เล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้อง ปลอดภัยจริงไหม? หรือเสี่ยงโดนฟ้าผ่า?
เล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้อง ปลอดภัยจริงไหม? หรือเสี่ยงโดนฟ้าผ่า?

เล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้อง ปลอดภัยจริงไหม? หรือเสี่ยงโดนฟ้าผ่า?

Key Takeaway

  • ฟ้าผ่าเกิดจากการสะสมและคายประจุไฟฟ้าระหว่างก้อนเมฆกับพื้นดินหรือระหว่างก้อนเมฆด้วยกันเอง โดยประจุบวกมักอยู่ที่ยอดเมฆและประจุลบที่ฐานเมฆ เมื่อความต่างศักย์ไฟฟ้าสูงเกินไป จะเกิดการปลดปล่อยประจุอย่างรวดเร็วเป็นฟ้าผ่า
  • การเล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้องไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงโดนฟ้าผ่าโดยตรง แต่การใช้โทรศัพท์ในที่โล่งแจ้งขณะฝนฟ้าคะนองอาจเสี่ยงไฟฟ้าช็อตจากกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ ควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์กลางแจ้งและไม่ชาร์จโทรศัพท์ในช่วงฝนฟ้าคะนอง
  • วิธีป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าในบ้าน เช่น เลี่ยงเสียบสายชาร์จหรือใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะฝนตก ถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า อยู่ในอาคารที่ติดตั้งสายล่อฟ้า และอยู่ห่างจากประตู หน้าต่าง หรือโครงสร้างโลหะที่นำไฟฟ้าได้
  • อุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องเครื่องใช้ไฟฟ้าจากฟ้าผ่า ได้แก่ Surge Protector ซึ่งช่วยกรองและเบี่ยงเบนไฟฟ้ากระชากลงสู่ดิน และ UPS ที่สำรองไฟฟ้าและปรับแรงดันไฟฟ้าให้เสถียร ป้องกันความเสียหายจากไฟกระชากและไฟดับ

เมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง หลายๆ บ้านอาจเคยเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างฟ้าผ่าไฟดับ หรือฟ้าผ่าลงบ้านจนทำให้เกิดไฟบ้านดับหลังเดียว แต่เคยสงสัยไหมว่าการเล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้อง ปลอดภัยจริงไหม? ความเชื่อที่ว่าฟ้าผ่าจะวิ่งมาตามคลื่นสัญญาณโทรศัพท์นั้นเป็นเพียงเรื่องเล่าหรือมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับกันแน่? 

การเล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้องไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เสี่ยงโดนฟ้าผ่า แต่ถ้าฟ้าผ่าลงบริเวณใกล้เคียงที่คุณอยู่อาจทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์ลัดวงจรและระเบิดได้ บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจและทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนที่คุณรักกัน!

สาเหตุ ‘ฟ้าผ่า’ เกิดขึ้นได้อย่างไร?

สาเหตุ ‘ฟ้าผ่า’ เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ฟ้าผ่าเกิดจากการสะสมและเคลื่อนที่ของประจุไฟฟ้าภายในก้อนเมฆคิวมูโลนิมบัส (Cumulonimbus) ซึ่งเป็นเมฆฝนฟ้าคะนองขนาดใหญ่ โดยประจุบวกจะรวมตัวอยู่บริเวณยอดเมฆ ส่วนประจุลบจะอยู่ที่ฐานเมฆ เมื่อประจุไฟฟ้าสะสมมากจนเกิดความต่างศักย์ไฟฟ้าสูงระหว่างฐานเมฆกับพื้นดินหรือระหว่างก้อนเมฆด้วยกัน จะเกิดการคายประจุไฟฟ้าอย่างรวดเร็วเป็นฟ้าผ่า ซึ่งเป็นการปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าในรูปของแสงและความร้อนอย่างฉับพลัน

กระแสไฟฟ้าที่ไหลจากเมฆลงสู่พื้นดินนี้ ทำให้อากาศรอบๆ ร้อนจัดจนขยายตัวอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นเสียงดังฟ้าร้องตามมา ฟ้าผ่าจึงเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการถ่ายเทประจุไฟฟ้าในบรรยากาศระหว่างเมฆและพื้นดินหรือระหว่างเมฆกับเมฆ

เล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้อง อันตรายไหม?

เล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้อง อันตรายไหม?

ความเชื่อที่ว่า เมื่อเล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้องจะโดนฟ้าผ่า มาจากข่าวหรือเรื่องเล่าที่มีคนถูกฟ้าผ่าในขณะที่ถือโทรศัพท์ ทำให้เข้าใจผิดว่าโทรศัพท์เป็นตัวล่อฟ้าผ่าและสัญญาณมือถือเป็นสาเหตุของฟ้าผ่า ทั้งที่จริงแล้วเป็นการบิดเบือนข้อมูลและความเข้าใจผิดทั่วไป

การเล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้องไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงให้โดนฟ้าผ่าโดยตรง เพราะโทรศัพท์มือถือใช้พลังงานต่ำและไม่มีพลังงานไฟฟ้าสูงพอที่จะล่อฟ้าผ่าได้ แต่ถ้าอยู่กลางแจ้งหรือใกล้บริเวณที่มีฟ้าผ่า อาจเกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์ลัดวงจรและระเบิดได้ ซึ่งเป็นอันตราย จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์กลางแจ้งขณะฝนฟ้าคะนองและควรอยู่ในที่ปลอดภัย เช่น ภายในอาคาร หรือภายในบ้าน เป็นต้น

ฟ้าผ่าภายในบ้าน มีโอกาสเกิดขึ้นไหม?

ฟ้าผ่าภายในบ้าน มีโอกาสเกิดขึ้นไหม?

หลายคนสงสัย เล่นโทรศัพท์ในบ้านฟ้าผ่าไหม? หรือเล่นโทรศัพท์ในบ้านตอนฟ้าร้องเป็นไรไหม? ฟ้าผ่าภายในบ้านมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แม้จะอยู่ในที่ร่มก็ตาม เนื่องจากฟ้าผ่าสามารถลัดวงจรผ่านโครงสร้างบ้าน เช่น สายไฟ ท่อโลหะ หรือวัสดุต่างๆ ที่นำไฟฟ้าไปสู่ภายในบ้านได้ หากบ้านไม่มีระบบป้องกันฟ้าผ่าที่เหมาะสมก็เสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากฟ้าผ่าได้ และยิ่งถ้าเล่นโทรศัพท์ในบ้านตอนฟ้าร้องก็จะยิ่งเสี่ยงเลย

โดยปกติบ้านที่ติดตั้งระบบสายล่อฟ้าจะช่วยนำกระแสไฟฟ้าจากฟ้าผ่าไปลงดินอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ภายในบ้าน แต่หากไม่มีการป้องกันหรือระบบสายล่อฟ้าไม่สมบูรณ์ ก็อาจทำให้ฟ้าผ่าลงหลังคาหรือโครงสร้างบ้านได้ และทำให้เกิดความเสียหายหรือไฟลุกไหม้ตามมา

ดังนั้น แม้จะอยู่ในบ้านก็ยังต้องมีมาตรการป้องกันฟ้าผ่า เช่น ติดตั้งสายล่อฟ้า ตรวจสอบระบบไฟฟ้า และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหนักในช่วงฝนฟ้าคะนอง เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องอบผ้า เตารีดไฟฟ้า เครื่องดูดฝุ่นและเครื่องซักผ้า เป็นต้น เพื่อความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

เล่นเน็ตตอนฝนตกฟ้าร้อง อันตรายไหม?

เล่นเน็ตตอนฝนตกฟ้าร้อง อันตรายไหม?

ถ้าเล่นเน็ต เล่นคอมตอนฝนตกได้ไหม อันตรายไหม? การเล่นคอมพิวเตอร์หรือเล่นอินเทอร์เน็ตตอนฝนตกฟ้าร้องมีความเสี่ยงจากไฟกระชากที่เกิดจากฟ้าผ่า ซึ่งกระแสไฟฟ้าจะวิ่งผ่านสายไฟและสายโทรศัพท์เข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้า ทำให้อุปกรณ์เสียหายและอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานได้ จึงควรถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับสายไฟหรือสายโทรศัพท์ออกในช่วงฝนฟ้าคะนองเพื่อความปลอดภัย

แม้การเล่นคอมในบ้านจะไม่เพิ่มโอกาสโดนฟ้าผ่าโดยตรง แต่ยังเสี่ยงเกิดกระแสไฟฟ้ากระชากที่ไหลเข้ามาทางสายไฟและสายสัญญาณ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในช่วงพายุฝนฟ้าคะนองเพื่อป้องกันความเสียหายและอันตราย

วิธีป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าในบ้าน

วิธีป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าในบ้าน

เมื่อเกิดฝนฟ้าคะนองและฟ้าผ่า การป้องกันอันตรายภายในบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีวิธีปฏิบัติที่ควรทำเพื่อความปลอดภัย ดังนี้

หลีกเลี่ยงการเสียบสายชาร์จขณะฝนตก

หลายคนอาจคิดว่าแค่ชาร์จโทรศัพท์คงไม่เป็นอะไร แต่รู้ไหมว่าการเสียบสายชาร์จโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าขณะฝนตกฟ้าร้องนั้นอันตรายกว่าที่คิด เพราะเมื่อเกิดฟ้าผ่า ไฟฟ้าแรงสูงอาจกระชากผ่านสายไฟเข้าสู่อุปกรณ์โดยตรง ทำให้เครื่องพังเสียหายหรือแม้กระทั่งเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งอาจนำไปสู่เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เลย ดังนั้น การถอดสายชาร์จออกเมื่อฝนฟ้าคะนองจึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงไฟฟ้าช็อตและปกป้องอุปกรณ์ที่มีค่าจากฟ้าผ่าได้ดี

ถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าขณะฝนตก

ไม่ใช่แค่โทรศัพท์มือถือ แต่รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดในบ้านด้วย เมื่อฝนฟ้าคะนอง สิ่งสำคัญคือควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นออกให้หมด ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องปรับอากาศ เพราะหากเกิดฟ้าผ่าใกล้บริเวณบ้าน ไฟฟ้าแรงสูงอาจกระชากผ่านสายไฟเข้าสู่อุปกรณ์เหล่านี้ ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายอย่างหนัก หรือร้ายแรงที่สุดคืออาจเกิดไฟไหม้ขึ้นได้ การสละเวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อถอดปลั๊ก ก็สามารถช่วยป้องกันความเสียหายร้ายแรงและรักษาความปลอดภัยให้กับบ้านและทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลีกเลี่ยงการใช้หูฟังแบบมีสาย

สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงหรือดูหนังเพลินๆ ด้วยหูฟังขณะฝนตก ขอเตือนว่าหากเป็นหูฟังแบบมีสาย ควรเลี่ยงใช้งานในช่วงนี้โดยเด็ดขาด เพราะสายหูฟังโลหะที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกอาจกลายเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี หากเกิดฟ้าผ่าบริเวณใกล้เคียง กระแสไฟฟ้าอาจวิ่งผ่านสายหูฟังมายังตัวเราได้โดยตรง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงจากไฟฟ้าช็อต เพื่อความปลอดภัยจึงควรหันไปใช้หูฟังแบบไร้สายแทน หรือถ้าเป็นไปได้ ก็ควรงดการใช้งานหูฟังไปก่อนจนกว่าพายุจะสงบลง

อยู่ในอาคารที่มีสายล่อฟ้า

เมื่อพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง การอยู่ในอาคารที่ติดตั้งสายล่อฟ้าอย่างถูกต้องถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะสายล่อฟ้าถูกออกแบบมาเพื่อดักจับกระแสไฟฟ้าจากฟ้าผ่าและนำลงสู่พื้นดินอย่างปลอดภัย ทำให้ลดความเสี่ยงที่ฟ้าผ่าจะพุ่งตรงมายังตัวอาคาร สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างบ้าน หรือทำลายอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านได้ ดังนั้น ควรเลือกอยู่ภายในอาคารที่มีระบบป้องกันฟ้าผ่าที่ได้มาตรฐาน เพื่อความอุ่นใจและปลอดภัยสูงสุดของคุณและคนที่คุณรัก

อยู่ห่างจากประตู หน้าต่าง และโครงสร้างโลหะ

แม้จะอยู่ในบ้าน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย 100% จากฟ้าผ่า เพราะบางจุดก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ เมื่อฟ้าร้องควรเลี่ยงยืนใกล้ประตู หน้าต่าง หรือโครงสร้างโลหะต่างๆ ในบ้าน เช่น ท่อประปา ราวบันไดโลหะ หรือแม้กระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เพราะวัสดุเหล่านี้ล้วนเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี และหากเกิดฟ้าผ่าใกล้บ้าน กระแสไฟฟ้าก็อาจวิ่งผ่านสิ่งเหล่านี้มายังตัวเราได้โดยไม่รู้ตัว การรักษาระยะห่างจากจุดเสี่ยงเหล่านี้จึงช่วยลดอันตรายจากฟ้าผ่าได้นั่นเอง

อุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านจากฟ้าผ่า

อุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านจากฟ้าผ่า

มาดูอุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านจากฟ้าผ่ากันว่ามีอะไรบ้าง!

Surge Protector

Surge Protector คืออุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากแรงดันสูงชั่วขณะที่เกิดขึ้นจากสาเหตุต่างๆ เช่น ฟ้าผ่า หรือการสลับโหลดไฟฟ้า โดยทำงานด้วยการตรวจจับแรงดันไฟฟ้าที่สูงเกินปกติและเบี่ยงเบนกระแสไฟฟ้าส่วนเกินนั้นลงสู่สายดินผ่านแนวความต้านทานต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟฟ้าเกินไหลเข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าและทำให้เกิดความเสียหาย

ประโยชน์ของ Surge Protector คือช่วยปกป้องเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากการเสียหายที่เกิดจากไฟกระชาก ลดปัญหาคลื่นรบกวนทางไฟฟ้า และช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านหรือสถานที่ทำงาน ส่วนในเรื่องของการป้องกันฟ้าผ่า ก็ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากแรงดันไฟฟ้าสูงชั่วขณะที่เกิดจากฟ้าผ่า โดยจะเบี่ยงเบนกระแสไฟฟ้าที่เกินมาให้ไหลลงสู่สายดินแทนที่จะไหลเข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้า ทำให้อุปกรณ์ได้รับการปกป้องจากไฟกระชากและความเสียหายที่ตามมา

UPS 

UPS (Uninterruptible Power Supply) หรือเครื่องสำรองไฟฟ้า คืออุปกรณ์ที่จ่ายไฟฟ้าสำรองและปรับแรงดันไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า เมื่อเกิดไฟดับ ไฟตก หรือไฟกระชาก ช่วยให้อุปกรณ์ไฟฟ้า โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ทำงานต่อเนื่องโดยไม่สะดุด และป้องกันความเสียหายจากปัญหาไฟฟ้าได้ 

UPS ช่วยเรื่องฟ้าผ่าโดยทำหน้าที่กรองแรงดันไฟฟ้าและจ่ายไฟฟ้าสำรองจากแบตเตอรี่เมื่อเกิดไฟกระชากหรือไฟดับจากฟ้าผ่า ทำให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้รับไฟฟ้าที่เสถียรและปลอดภัย ลดความเสี่ยงการเสียหายของเครื่องใช้ไฟฟ้าและข้อมูลสำคัญที่อยู่ในคอมพิวเตอร์

สรุป

สรุปแล้ว เล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้อง ฟ้าแลบเป็นอะไรไหม? แม้จะมีความเชื่อว่าเล่นโทรศัพท์ตอนฟ้าร้องอาจโดนฟ้าผ่า แต่จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าโทรศัพท์มือถือไม่ได้เป็นตัวล่อฟ้าผ่าโดยตรง เพราะขนาดและประจุไฟฟ้าในเครื่องไม่เพียงพอที่จะดึงดูดฟ้าผ่าได้จริง อย่างไรก็ตาม หากอยู่กลางแจ้งหรือในที่โล่งแจ้งขณะฝนฟ้าคะนอง การใช้โทรศัพท์อาจเพิ่มความเสี่ยงจากฟ้าผ่าได้ เพราะร่างกายและสิ่งแวดล้อมรอบตัวต่างหากที่เป็นตัวนำไฟฟ้า

การเล่นโทรศัพท์ในบ้านหรืออาคารที่มีระบบป้องกันฟ้าผ่าจะปลอดภัยกว่า แต่ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ในช่วงฝนฟ้าคะนอง เพราะไฟฟ้ากระชากจากฟ้าผ่าอาจทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ นอกจากนี้ การใช้เคสมือถือที่เป็นฉนวนช่วยลดไฟฟ้าสถิตและป้องกันความเสียหายได้

หากต้องการความมั่นใจและปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน Chuphotic มีจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า เช่น อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (Surge Protector) และเครื่องสำรองไฟ (UPS) ที่ช่วยปกป้องเครื่องใช้ไฟฟ้าจากไฟกระชากและฟ้าผ่าอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านและธุรกิจของคุณ

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

ฟ้าร้องเล่นไวไฟได้ไหม?

การเล่น WiFi ตอนฟ้าร้องโดยทั่วไปไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ เนื่องจากสัญญาณ WiFi มีพลังงานต่ำมาก ไม่สามารถล่อฟ้าผ่าได้โดยตรง แต่ความเสี่ยงที่แท้จริงมาจากไฟกระชากที่เกิดจากฟ้าผ่า ซึ่งอาจทำลายอุปกรณ์เครือข่าย เช่น เราเตอร์หรือโมเด็มได้ ดังนั้น ควรระวังและถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าในช่วงฝนฟ้าคะนองเพื่อป้องกันความเสียหาย

โทรศัพท์เป็นสายล่อฟ้าไหม?

โทรศัพท์มือถือไม่ใช่สายล่อฟ้า เพราะขนาดและพลังงานไฟฟ้าในเครื่องไม่เพียงพอที่จะดึงดูดฟ้าผ่าได้ ความเสี่ยงเกิดจากการอยู่กลางแจ้งมากกว่า

หูฟังบลูทูทฟ้าผ่าไหม?

หูฟังบลูทูทไม่มีสายจึงมีความเสี่ยงน้อยกว่าหูฟังแบบมีสายในการถูกฟ้าผ่า แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในที่โล่งแจ้งขณะฝนฟ้าคะนองเพื่อความปลอดภัย